เมื่อวันที่ 22 มีนาคม นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคก้าวไกล  โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊ก แสดงความเห็นกรณี รัฐบาลขอให้ประชาชนอยู่บ้านเพื่อชาติ ลดการระบาดโควิด พร้อมสั่งปิดสถานที่ งดการพบปะผู้คนจำนวนมากนั้น

นายเท่าพิภพ กล่าวว่า  ตอนนี้มาตรการลดระดับความรุนแรงของการแพร่กระจายไวรัสโควิด-19 คือการขอให้ประชาชนลดการเดินทางพบปะ ทำงานอยู่ที่บ้าน

ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ผิดนะครับ อันนั้นคือสิ่งที่ต้องทำ

แต่ลักษณะของประเทศไทยที่เป็นประเทศที่มีประชากรทำงานรายงัน หาเช้ากินค่ำ หาค่ำกินเช้า เป็นผู้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยไม่สามารถเข้าถึงสวัสดิการได้เยอะมาก

การเยียวยาประชาชนที่เขาขาดรายได้ หลายประเทศมีการชดเชยเพื่อให้ประชาชนเลือกจะอยู่บ้าน มากกว่าออกไปทำงานหาค่าแรงแบบตายเอาดาบหน้า

อย่าลืมว่า คนจน รายได้ไม่เข้า รายจ่ายขยับทุกวัน เขาไม่ได้มีทางเลือกเยอะมากในการใช้ชีวิต

แต่เขาก็เป็นคนที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของชาติ ทำงานก่อสร้าง รับส่งผู้โดยสาร สร้างความบันเทิงด้วยเสียงเพลงยามค่ำคืน

คนจำนวนนี้มีกี่ล้านครับ? และคนเหล่านี้จะถูกทอดทิ้งในเวลาที่เขาลำบาก ในขณะที่ชาติได้ประโยชน์จากพวกเขาในยามปกติ อันนี้ผมว่าไม่ถูกต้อง

ขึ้นขื่อว่ารัฐบาล ไม่ว่าจะรัฐบาลไหน ถ้าเขาจะอ้างตนยึดโยงกับประชาชน เขาก็ต้องดูแลประชาชนทุกคนให้ได้

เพราะการดูแลประชาชนคือหน้าที่ ไม่ใช่บุญคุณอะไรที่ประชาชนต้องซาบซึ้ง และการดูแลเยียวยาในภาวะวิกฤติ คือสิ่งที่ประชาชน ทุกคน ทุกชนชั้น สมควรได้รับ ทั้งแผนการระยะสั้น ระยะยาวหลังวิกฤติไวรัสคลี่คลาย

โดยเฉพาะกับรัฐบาลนี้ที่เคยลั่นวาจาไว้ว่า “เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง”

เวลาวิกฤตินี้แหละครับ คือการพิสูจน์สิ่งที่ท่านเคยพูด

ว่าท่านจะทำได้หรือไม่