เผยผู้ประกอบการท่องเที่ยวโอด! แบกต้นทุน-อุ้มพนักงาน ได้แค่ เม.ย.-หลังจากนั้นพร้อมลอยแพ-เลิกกิจการ

20 มี.ค. นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า จากการหารือกับภาคเอกชนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ขณะนี้จำนวนนักท่องเที่ยวแทบไม่เหลือ รายได้ลดลงมาก มีแต่รายจ่าย หากยังเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆก็จะต้องปิดกิจการ หรือ ปลดพนักงาน

เพราะสามารถแบกรับสภาพเช่นนี้ได้เพียง 3 เดือน หรือตั้งแต่ ก.พ.-เม.ย.2563 โดยผู้ประกอบการท่องเที่ยวซึ่งส่วนใหญ่ดำเนินธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) มากกว่า 80% ที่บางแห่ง เงินทุนไม่มาก ก็เริ่มปลดพนักงานแล้ว

“ตอนนี้สิ่งที่ทุกคนคิด คือสถานการณ์แพร่ระบาดจะลากยาวถึงเมื่อไร จะทนกันได้ถึงเมื่อไร เพราะในช่วง 3 เดือนตั้งแต่ ก.พ.ที่ผ่านมา ผู้ประกอบการเหนื่อยแล้ว และไม่รู้ว่าเหตุการณ์จะถลำลึกไปถึงจุดไหน หากสภาพคล่องของภาคเอกชนท่องเที่ยวไม่เพิ่ม และมีคนตกงาน ก็จะกลายเป็นหนี้เสียทั้งระบบ”

นายยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ททท.จะให้ความช่วยเหลือภาคเอกชนอย่างเต็มที่ โดยจะหารือกับธนาคารออมสินและบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เกี่ยวกับการผ่อนปรนหลักเกณฑ์ปล่อยสินเชื่อใหม่ของวงเงินซอฟต์โลน 1.5 หมื่นล้านบาท พิจารณาจากเกณฑ์ชี้วัดอื่นๆ

เช่น ค่าใช้จ่ายประจำ ตรวจสอบรายได้จากระบบการจ่ายภาษี เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ที่เหมาะสม เนื่องจากบางธุรกิจมีสินทรัพย์ที่ไม่สามารถนำมาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันได้ เช่น รถบัสนำเที่ยว หวังช่วยเหลือผู้ประกอบการท่องเที่ยวให้เร็วที่สุด เร่งรัดให้เลือดไหลเวียนในระบบได้ดีขึ้น