หนึ่งในมาตรการควบคุมการระบาดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ คือ การควบคุมผู้เดินทางเข้าออกประเทศ ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ท้องที่นอกราชอาณาจักรที่เป็นเขตติดโรคติดต่ออันตราย กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 พ.ศ. 2563 กำหนด 4 ประเทศ คือ เกาหลีใต้ จีน (ฮ่องกง มาเก๊า) อิตาลี และอิหร่าน ทำให้มีการจัดพื้นที่กักตัวผู้ที่เดินทาง โดยเฉพาะกลุ่มแรงงานที่มาจากเกาหลีใต้

ล่าสุดพบว่า มีการใช้พื้นที่ในจังหวัดต่างๆ เพื่อกักตัว แต่พบว่า มีหนึ่งในผู้เข้าข่ายต้องโดนกักตัวได้แชร์สภาพของที่อยู่ ใน จ.บุรีรัมย์ ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่า อาจจะมีการแพร่เชื้อในค่ายดังกล่าวแทน ที่จะเป็นการควบคุมเชื้อเอาไว้

โดยพบว่า สมาชิกเฟซบุ๊กรายดังกล่าวได้เขียนถึงประสบการณ์การเดินทางเข้าพื้นที่กักกันโรค ซึ่งต้องเผชิญกับความลำบาก และพบว่า ที่พักนั้นเสี่ยงที่จะได้รับเชื้อมากกว่า กักกันเชื้อ

โพสต์ระบุว่า “ไม่ต่างกับนักโทษเลยจ้า ข้าวไม่ได้กิน มาถึงตั้งแต่ 3 โมงจนป่านนี้ จบกันค่าตั๋วกูแพงๆ #ทัวร์จีนปล่อยผ่านหมดต่อหน้าต่อตา บินลำเดียวกัน ให้คนต่างชาติลงก่อนที่เหลือคนไทยรอรถมารับไปรอกัก รอตรวจห่าอะไร ไม่ตรวจสักอย่างนอกจากพาสปอรต์ #สองมาตราฐานใครเม้นด่ามากรูด่ากลับ เฟซส่วนตัวโพสจากสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเอง”

จากนั้นเธอโพสต์ว่า “ออกจากบ้านที่อินชอนตั้งแต่ตี 3 ของวันที่ 9 ไฟลต์บินรอบ 11 โมงเช้า ถึงดอนเมืองบ่าย 3 จนตอนนี้ตี 1:30 น. ยังไม่รู้มันจะพาไปกักตรงจุดไหน..คือตั้งแต่ออกบ้านจนตอนนี้ยังไม่ได้กินข้าว ไม่ได้นอนเลย”

หลังจากเดินทางไปถึง พบว่าห้องพักที่จัดเตรียมไว้เต็ม จึงมีการแบ่งกลุ่มและกางเต้นท์ชั่วคราวให้พักอาศัย ซึ่งเธอได้ไลฟ์สดถึงสภาพที่พักว่า เป็นเต้นท์แข็งๆ ไม่มีที่นอน ห้องน้ำรวม อากาศร้อนมาก เพราะมีพัดลมเพียงไม่กี่ตัวเท่านั้น ซึ่งเธอต้องนอนร่วมเต้นท์กับสามีชาวเกาหลี อย่างไรก็ตาม พบว่า ที่พักมี 2 ประเภท คือ ห้องพักมีแอร์ห้องน้ำพร้อม และที่พักชั่วคราวแบบเต้นท์ เนื่องจากมีการกักตัวคนมากกว่าจำนวนที่พักจะพอรองรับ

https://www.facebook.com/llwsjang/videos/1497052093786212/?t=0