คลังชี้แม้ไม่แจกเงิน มาตรการที่เหลือสามารถช่วยโควิด-19 ลั่นพร้อมดูแลไม่ให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย

นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) กล่าวว่า มาตรการดูแลผลกระทบโควิด -19 เสนอครม.ในวันที่ 10 มีนาคมนั้น ส่วนใหญ่ยังจะยืนตามมติครม.เศรษฐกิจเมื่อวันที่ 6 มีนาคม ยกเว้นในเรื่องการแจกเงิน เป็นไปตามที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ไว้ภายหลังการประชุมหัวหน้าส่วนราชการที่กระทรวงพลังงานว่ายังไม่เสนอครม.

นายลวรณ กล่าวว่าแม้จะไม่มีการแจกเงิน แต่เชื่อว่ามาตรการที่เหลือจะสามารถช่วยผู้ประกอบการและลูกจ้างที่กำลังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19  โดยจะมีสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ(ซอฟท์โลน) 1.5 แสนล้านบาท ธนาคารออมสินปล่อยกู้ให้ธนาคารพาณิชย์และแบงก์รัฐ นำไปปล่อยกู้ให้ผู้ประกอบการเสริมสภาพคล่องและรักษาการจ้างงานไว้

นายลวรณ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีมีหลายฝ่ายมองว่าโควิด-19 ทำให้เศรษฐกิจไทยเกิดภาวะถดถอย ความหมายของของเศรษฐกิจถดถอยจีดีพีติดลบติดต่อกัน 2 ไตรมาสเป็นการเทียบปีต่อปี นั้นหากรัฐบาลไม่ทำอะไรเลยคงเป็นแบบนั้น รัฐบาลและกระทรวงการคลังคงไม่ปล่อยให้เศรษฐกิจตกต่ำไปถึงขั้นระดับติดลบ และต้องมีมาตรการช่วยเหลือออกมาเป็นระยะ ซึ่งในความช่วยเหลือโควิด-19 ที่จะเสนอครม.นั้นเป็นเพียงมาตรการชุดแรก หากสถานการณ์ไม่ดีขึ้นพร้อมจะออกชุด 2 และชุด 3 ตามมา

“โควิด-19 สร้างผลกระทบเต็มๆ ต่อเศรษฐกิจในเดือนกุมภาพันธ์ แต่ในเดือนมกราคมเศรษฐกิจไทยยังได้รับผลดีจากการส่งออกที่เป็นบวก ส่วนในเดือนมีนาคมได้รับผลดีจากงบประมาณใช้ได้อย่างเต็มทำให้จะมีเม็ดเงินลงทุน 3 แสนล้านบาทเบิกจ่ายได้ทันที และได้รับผลดีจากมาตรการที่รัฐบาลออกมช่วยเหลือ ดังนั้นจึงเชื่อว่าเศรษฐกิจไตรมาสแรกปีนี้จะไม่ติดลบอย่างที่หลายฝ่ายประเมินไว้”นายลวรณ กล่าว