อดีตแกนนำ รำลึก 1 ปี ยุบ “ไทยรักษาชาติ” แม้เสียดายแต่ยังตั้งใจเพื่อประเทศ-ประชาชน

วันที่ 7 มีนาคม 2563 ผ่านมาครบ 1 ปี หลังตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยยุบพรรคไทยรักษาชาติ อันเนื่องจากการเสนอแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่กลายเป็นปรากฎการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์การเมืองไทย แต่กระนั้น บรรดาอดีตคณะกรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติ ซึ่งถูกตัดสิทธิทางการเมือง 10 ปี ได้ร่วมกันออกมาโพสต์ข้อความเนื่องในวาระครบรอบของพรรคใหม่ที่ต้องออกจากสนามการเมืองก่อนวันเลือกตั้งปี 2562

‘ปรีชาพล’ ชี้ 1 ปีผ่านไป เป็นบททดสอบสำคัญของชีวิต ท้อได้แต่อย่าถอย

ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงวาระ ครบ 1 ปียุบพรรคไทยรักษาชาติ โดยระบุว่า “7 มีนาคม 2563 ครบ 1 ปียุบพรรคไทยรักษาชาติ หนึ่งปีผ่านไป เป็นช่วงเวลาที่ไม่ง่ายและต้องปรับตัวมากพอสมควร ถือเป็นบททดสอบในช่วงเวลาที่สำคัญของชีวิต ซึ่งแม้จะยากแต่ก็ต้องผ่านไปให้ได้ และนี่คือสิ่งที่บอกกับตัวเองตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เพราะชีวิตคือการเดินทาง อาจจะมีล้มลุกคลุกคลาน สำเร็จสมหวังหรือผิดหวังล้มเหลวบ้างก็เป็นธรรมดา เปรียบเปรยคำพูดที่ว่า

“อากาศหนาวเย็นทดสอบความแข็งแรงของร่างกายฉันใดความกดดันและความผิดหวังย่อมท้าทายความแข็งแกร่งของจิตใจฉันนั้น” ท้อแท้ได้ แต่จะไม่ท้อถอย ตราบใดที่ยังมีลมหายใจ การต่อสู้ถือเป็นหน้าที่

เราทุกคนต่างมีความหวังและความฝัน หากมีจิตใจที่มุ่งมั่นและแน่วแน่ บนพื้นฐานความคิดที่ปรารถนาดีต่อชาติบ้านเมือง ซื่อตรงต่อความเชื่อและอุดมการณ์ ซื่อสัตย์ต่อประชาชน ผมเชื่อว่าสักวันความปรารถนานั้นจะเป็นจริง

ทุกวันนี้ประเทศไทยกำลังเผชิญปัญหารอบด้านในทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคมและการเมือง การแก้ไขต้องอาศัยคนที่มีความพร้อมจะเข้าใจ ซึ่งยึดเอาผลประโยชน์ของประชาชนและส่วนรวมเป็นที่ตั้ง มีสติและปัญญา ในช่วงเวลาที่เหมาะสม และสำคัญที่สุดคือการสนับสนุนร่วมมือร่วมใจจากทุกฝ่ายในสังคม เวลาไม่เคยรอใคร การพัฒนาประเทศไปอย่างช้าๆในโลกที่มีความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ฉับไวและตลอดเวลาถือเป็นความล้าหลัง ฉะนั้นจึงมีความจำเป็นที่ต้องเปิดโอกาสและการสร้างสรรค์สิ่งดีๆให้เกิดขึ้นโดยเร็ว เพื่ออนาคตที่ดีของคนไทยและประเทศชาติอันเป็นที่รักยิ่งของพวกเราทุกคน

ผมปรารถนาที่จะได้เห็นชัยชนะของประเทศไทย ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่าน ร่วมกันสานฝัน หลอมรวมจิตใจให้เป็นหนึ่งเดียว ฟันฝ่าปัญหาและอุปสรรคในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปให้ได้นะครับ”

“แซนด์” ชี้ แม้ ‘ไทยรักษาชาติ’ จะเปลี่ยนไป แต่ความตั้งใจยังคงเดิม

ด้านน.ส.ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ อดีตนายทะเบียนพรรค ได้โพสต์ข้อความเช่นกันว่า 7 มีนาคม ครบรอบ 1 ปี ของการยุบพรรคไทยรักษาชาติ พรรคไทยรักษาชาติ ก่อตั้งขึ้นจากกลุ่มคนที่มีประสบการณ์หลอมรวมกับคนรุ่นใหม่ ที่มีจุดมุ่งหมายที่อยากจะเห็นประเทศไทยก้าวทันต่อความเปลี่ยนแปลงของโลก หัวใจของไทยรักษาชาติคือ “ประชาชน” ความเสมอภาค สิทธิ เสรีภาพ และความเป็นธรรม ซึ่งเป็นสิ่งที่เรามุ่งหวังอยากให้เกิดขึ้นจริงในสังคมไทย

ช่างเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจที่ทุกวันนี้ประเทศไทยอ่อนแอจากภายใน สิ่งที่เป็นอยู่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาให้ประชาชนได้ ไม่ว่าจะเป็นด้านสิทธิ เสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชน ด้านเศรษฐกิจปากท้อง ด้านคุณภาพชีวิต และร้ายที่สุด คือ ด้านสุขภาพ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องได้รับการแก้ไขโดยด่วน แม้จะที่ผ่านมามีหลายฝ่ายเสนอทางออก แต่น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่งที่เสียงเหล่านั้นถูกละเลย ประชาชนขาดที่พึ่งพิงและต้องเผชิญหน้ากับวิกฤตเหล่านี้ด้วยตัวเอง

แม้สถาบันพรรคไทยรักษาชาติจะเปลี่ยนไป แต่จิตวิญญาณและความตั้งใจที่อยากจะเห็นคนไทยอยู่ดีกินดียังคงอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง และแม้จะไม่ได้ทำหน้าที่ในฐานะนักการเมือง แต่ยังคงมีความฝันและความหวังที่จะทำงานหรือเป็นหนึ่งในการสร้างโอกาสและช่วยเหลือพี่น้องประชาชนเสมอค่ะ

‘คณาพจน์’ เผย แม้โอกาสยังไม่มาถึง แต่ก็ไม่ทิ้งความฝัน

ขณะที่ ดร.คณาพจน์ โจมฤทธิ์ อดีตรองเลขาธิการพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า หนึ่งปีที่ผ่านมา ถือเป็นช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลง และเป็นบททดสอบสำคัญของชีวิตจากเด็กคนนึงที่มีความใฝ่ฝัน และความตั้งใจที่จะอาสาเข้ามาทำงานทางการเมือง เพื่ออยากที่จะช่วยเหลือประชาชน และพัฒนาประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้า แม้โอกาสนั้นยังไม่มาถึง ตนก็ไม่เคยละทิ้งความฝัน และความตั้งใจที่จะช่วยเหลือประชาชน ตลอดจนช่วยพัฒนาสังคมให้เจริญก้าวหน้า ที่ผ่านมาตนได้มีโอกาสไปลงพื้นที่ในชุมชนต่างจังหวัด เพื่อคุยกับพี่ๆ เกษตรกร กับนักธุรกิจสตาร์ทอัพ และ SME เพื่อศึกษาถึงปัญหา และหาแนวทางที่จะพัฒนาให้ก้าวทันการเปลี่ยนของโลก

ดร.คณาพจน์กล่าวอีกว่า ถึงแม้ว่าปัจจุบัน ต้องยอมรับว่าปัญหาเศรษฐกิจมีผลกระทบต่อประชาชนในทุกระดับ ซึ่งจะต้องได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง และถูกต้อง แต่ตนเชื่อว่าหากเราร่วมมือกันหาแนวทาง หาจุดแข็งของประเทศไทย ส่งเสริมผลิตภัณฑ์ของไทย เพื่อสร้างศักยภาพ และข้อต่อรองกับต่างประเทศ ปัญหาเศรษฐกิจจะค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้นได้

“สิ่งต่างๆ เหล่านั้นเป็นนโยบายที่พรรคไทยรักษาชาติตั้งใจไว้ที่จะทำให้เป็นรูปธรรม ทุกวันนี้ถึงแม้บทบาทของตนจะเปลี่ยนไป แต่ความตั้งใจเหล่านั้นไม่เคยเปลี่ยนแปลง เพื่อหวังที่จะสร้างโอกาส และอนาคตที่ดีให้กับคนไทย และสังคมไทยครับ #โอกาสคืออนาคต” ดร.คณาพจน์กล่าว

‘ฤภพ’ ลั่นแม้ไม่อยู่การเมืองแล้ว แต่ขอใช้ความสามารถสร้างโอกาสต่อไป

นอกจากนี้ ดร.ฤภพ ชินวัตร อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า 7 มีนาคม 2563 ครบ 1 ปีแล้วที่พรรคไทยรักษาชาติโดนยุบ และกรรมการบริหารพรรคโดนตัดสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นเวลา 10 ปี ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถอยู่ในการเมือง แต่ด้วยความเชื่อมั่นในประชาธิปไตย และ ความตั้งใจที่จะช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ตนก็จะขอใช้ความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ช่วยสร้างโอกาส สร้างอนาคตให้ประเทศไทย และ พี่น้องคนไทย ตลอดไป