วันที่ 4 มีนาคม 2563 เซาท์ไชน่า มอร์นิง โพสต์ รายงานสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 วันที่ 4 มี.ค. ว่า ยอดผู้เสียชีวิตทั่วโลก 3,173 ราย เป็นจีน 2,981 ราย อิหร่าน 77 ราย อิตาลี 52 ราย เกาหลีใต้ 31 ราย สหรัฐอเมริกา 9 ราย เรือไดมอนด์ พรินเซส ที่จอดเทียบท่าอยู่โยโกฮามา 6 ราย ญี่ปุ่น 6 ราย ฝรั่งเศส 4 ราย ฮ่องกง 2 ราย และที่เสียชีวิตประเทศละ 1 ราย ได้แก่ ไทย ไต้หวัน สเปน ออสเตรเลีย ฟิลิปปินส์

ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกเพิ่มเป็น 92,560 คน รักษาหายแล้ว 50,691 คน ในจำนวนผู้ติดเชื้อ 92,560 คน อยู่ในจีน 80,270 คน

ส่วนประเทศอื่นที่พบผู้ติดเชื้อหลักพัน ได้แก่

เกาหลีใต้ 5,328 คน

อิหร่าน 2,336 คน

อิตาลี 2,036 คน

ประเทศหรือแหล่งที่พบผู้ติดเชื้อหลักร้อย ได้แก่

เรือไดมอนด์ พรินเซส ที่จอดเทียบท่าอยู่โยโกฮามา 706 คน

ญี่ปุ่น 294 คน

ฝรั่งเศส 204 คน

เยอรมนี 196 คน

สเปน 150 คน

สิงคโปร์ 110 คน

สหร้ฐอเมริกา 108 คน

ฮ่องกง 100 คน

ประเทศที่พบผู้ติดเชื้อยังไม่ถึงร้อยคน ได้แก่

คูเวต 56 คน

อังกฤษ51 คน

บาห์เรน 47 คน

ไทย 43 คน

ไต้หวัน 42 คน

สวิตเซอร์แลนด์ 42 คน

มาเลเซีย 36 คน

ออสเตรเลีย 33 คน

แคนาดา 30 คน

นอร์เวย์ 25 คน

ออสเตรีย 24 คน

ยูเออี 21 คน

เนเธอร์แลนด์ 18 คน

เวียดนาม 16 คน

เลบานอน 13 คน

โอมาน 12 คน

มาเก๊า 10 คน

อิสราเอล 10 คน

ประเทศที่พบผู้ติดเชื้อไม่ถึงสิบคน ได้แก่ โครเอเชีย 9 ไอซ์แลนด์ 9 เบลเยียม 8 ฟินแลนด์ 7 กรีซ 7 กาตาร์ 7 เอกวาดอร์ 6 อินเดีย 6 แอลจีเรีย 5 เช็ก 5 เดนมาร์ก 5 เม็กซิโก 5 ปากีสถาน 5 ฟิลิปปินส์ 3 อาร์เซอร์ไบจาน 3 รัสเซีย 3 ประเทศที่พบผู้ติดเชื้อ 2 คน ได้แก่ เบลารุส อียิปต์ อินโดนีเซีน ไอร์แลนด์ นิวซีแลนด์ โปรตุเกส เซเนกัล

ประเทศที่พบผู้ติดเชื้อแล้ว 1 คน ได้แก่ อัฟกานิสถาน อันดอร์รา อาร์เจนตินา อาร์เมเนีย กัมพูชา ชิลี โดมินิกัน เอสโตเนีย จอร์แดน ลัตเวีย ลิธัวเนีย ลักเซมเบิร์ก โมนาโก โมร็อกโก เนปาล ไนจีเรีย มาซิโดเนียเหนือ ซาอุดีอาระเบีย ศรีลังกา ตูนิเซีย และยูเครน

วันเดียวกัน เมโทร รายงานคำให้สัมภาษณ์ของ ศ.วิลเลียม คีวิล มหาวิทยาลัยเซาแธมป์ตัน ประเทศอังกฤษ เตือนให้ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ หมั่นเช็ดทำความสะอาดสมาร์ตโฟนของตนเองด้วย เพราะหน้าจอเครื่องเป็นแหล่งที่เชื้อตกค้างอยู่ได้นานเป็นสัปดาห์ หากสัมผัสหน้าจอแล้ว มาสัมผัสหน้าตาตัวเอง ก็จะเป็นเส้นทางติดเชื้อได้

ด้านศ.ปีเตอร์ ฮอลล์ จากมหาวิทยาลัยวอเตอร์ลู ให้คำแนะนำเดียวกัน พร้อมชี้แจงว่า สมาร์ตโฟนเป็นเหมือนจานอาหาร จึงควรทำความสะอาด ทั้งช่วงอาหารกลางวัน และช่วงอาหารค่ำ จากสถิติที่ดีเคาต์สำรวจ คนเราหยิบจับโทรศัพท์มือถือ 2,600 ครั้งต่อวัน และใช้งานเฉลี่ยราว 76 ครั้งต่อวัน