‘ชวน’เผยฝ่ายค้านตกลงแล้วไม่อภิปรายปมถวายสัตย์ ชี้เป็นเรื่องของฝ่ายบริหารกับสถาบันฯ

‘ชวน’เผยฝ่ายค้านตกลงแล้วไม่อภิปรายปมถวายสัตย์ ชี้เป็นเรื่องของฝ่ายบริหารกับสถาบันฯ

วันที่ 26 กุมภาพันธ์ ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนรษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงความวุ่นวายระหว่างการอภิปรายของพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย ว่า ได้ฟังการอภิปรายอยู่ตลอด ทั้งนี้เราได้มีการระมัดระวังตั้งแต่ต้น เพราะกรณีการอภิปรายเรื่องการถวายสัตย์ปฏิญาณ ได้มีการขอร้องและพูดคุยในการประชุมร่วมระหว่างวิปฝ่ายค้าน และฝ่ายรัฐบาลว่า จะไม่มีการนำเรื่องนี้เข้าสู่การอภิปราย เนื่องจากได้เคยมีการอภิปรายไปแล้วเมื่อช่วงเดือนกันยายน 2562 แต่ครั้งนี้ในข้อบังคับเรื่องการไม่เอ่ยถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ถือเป็นเรื่องสำคัญ จึงมีความเห็นร่วมกันระหว่างสองฝ่ายว่าจะไม่นำเข้าสู่การอภิปรายไม่ไว้วางใจ

เมื่อถามว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ทราบเรื่องนี้มาก่อนหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า ทางตัวแทนฝ่ายค้านคงนำเรื่องไปแจ้งแล้ว แต่ข้อเท็จจริงแม้จะไม่ได้เป็นข้อตกลงร่วมกัน แต่ถ้าประธานฯ เห็นว่า เป็นเรื่องเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตตริย์ ก็สามารถสั่งไม่ให้พูดได้ ซึ่งนายศุภชัย โพธิ์สุ ซึ่งทำหน้าที่ประธานฯ ก็ได้ตัดสินไปแล้วว่าห้ามพูด รวมทั้งเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ก่อนการอภิปราย ตนได้ชี้แจงเรื่องข้อบังคับและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจทั้งหมดรวมถึงเรื่องนี้ด้วยว่า เราจะไม่อภิปรายเรื่องการถวายสัตย์ เพราะเป็นเรื่องของฝ่ายบริหาร กับพระมหากษัตริย์ อย่างไรก็ตามหาก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ จะอภิปรายเรื่องอื่นๆ สามารถทำได้ เพราะเป็นเรื่องที่ตกลงกันไว้แล้ว

นายชวน กล่าวว่า เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ยังไม่มีตกลงเรื่องการแบ่งเวลาระหว่างฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลอย่างชัดเจน เพราะต้องการเปิดโอกาสให้อภิปรายได้เต็มที่ ซึ่งปกติการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี 6 คน ใช้เวลาไม่ยาวถึงขนาดนี้ โดยในช่วงวันแรกมีการแบ่งเวลาให้ผู้อภิปรายมากเกินไป เช่น บางคนได้เวลา 2 ชั่วโมง ทำให้กล่าวซ้ำวนไปวนมา จนเมื่อวานนี้ (25 กุมภาพันธ์) จึงได้มีการหารือร่วมกัน และปรับระบบการอภิปรายใหม่ โดยให้แต่ละฝ่ายคุมเวลาของตัวเอง ฝ่ายค้านมีเวลา 21 ชั่วโมง ซึ่งไม่รวมเวลาการกล่าวสรุปการอภิปรายอีก 2 ชั่วโมง ส่วนฝ่ายรัฐบาลมีเวลา 10 ชั่วโมง

ทั้งนี้ได้มีการเสนอแนะว่า การที่รัฐบาลจะชี้แจงสามารถทำได้ คือ 1.ชี้แจงได้ทันทีอย่างที่เคยทำมา หรือ 2.ให้ภิปรายก่อนสัก 2-3 คน แล้วรัฐมนตรีค่อยขึ้นชี้แจงก็จะช่วยประหยัดเวลา เพราะเท่าที่สังเกตผู้อภิปรายก็อภิปรายซ้ำประเด็นเดิม สำหรับภาพรวมบรรยากาศการอภิปรายได้รับความร่วมมือได้ดีพอสมควร ถ้าย้อนกลับไปที่การอภิปรายของฝ่ายค้านที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่าไม่ได้ราบเรียบ แต่ละฝ่ายจะลุกขึ้นมาพูดว่า ประธานฯ ไม่เป็นกลาง หรือแม้รัฐมนตรีจะลุกขึ้นมาตอบ หรือแก้ต่างได้อย่างดี แต่ก็ไม่เป็นที่พอใจของผู้อภิปรายบางคน จึงลุกขึ้นมาประท้วง