นักวิจัยชี้ “โควิด-19” แพร่เชื้อเหมือนโรคหวัดมากกว่าโรคซาร์ส

วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2563 สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า นักวิทยาศาสตร์ในจีนที่ศึกษาจมูกและลำคอจากผู้ป่วย 18 รายที่ติดเชื้อโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ หรือโรค “โควิด-19” ระบุว่า ลักษณะอาการคล้ายกับไข้หวัดใหญ่มากกว่าไวรัสอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดแนะนำว่ามันอาจแพร่กระจายได้ง่ายกว่าที่เคยเชื่อกันมาก่อน อย่างน้อยก็ในกรณีหนึ่งมีเชื้อไวรัสแล้วแม้ว่าผู้ป่วยจะไม่มีอาการ ถือว่ายืนยันความกังวลว่าผู้ป่วยที่ไม่มีอาการสามารถแพร่เชื้อได้

งานศึกษาดังกล่าวได้เผยแพร่ในวารสารการแพทย์ นิว อิงก์แลนด์ แม้เป็นผลวิจัยขั้นต้น แต่ได้เสนอหลักฐานใหม่ว่าการระบาดของโคโรน่าไวรัส ไม่มีรูปแบบที่ใกล้เคียงกับญาติสายพันธุ์เชื้อโคโรน่าไวรัสชนิดอื่น

ดร.เกรกอรี่ โปแลนด์ นักไวรัสวิทยาและนักวิจัยวัคซีนจากมาโย คลินิกในโรเชสเตอร์ มลรัฐมินเนโซต้าของสหรัฐฯกล่าวว่า หากได้รับการยืนยันเช่นนั้น ก็นับว่าสำคัญมาก

อีกความแตกต่างคือ โรคระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรงหรือซาร์ส (SARS) ซึ่งทำให้เกิดการติดเชื้อในทางเดินหายใจส่วนล่างที่อาจทำให้เกิดโรคปอดบวม แต่เชื้อไวรัสที่เกิดโรค โควิด-19 ดูเหมือนจะอาศัยอยู่ทั้งทางเดินหายใจส่วนบนและด้านล่าง ไม่เพียงแต่จะทำให้เกิดโรคปอดอักเสบรุนแรงเท่านั้น แต่ยังแพร่กระจายได้ง่ายเหมือนไข้หวัดธรรมดา

นักวิจัยจากมณฑลกวางตุ้งได้เฝ้าจับตาดูอาการของผู้ป่วย 18 ราย พบ 1 ในนั้น มีระดับปานกลางของไวรัสในจมูกและลำคอ แต่ไม่เคยการแสดงอาการ ส่วนที่เหลืออีก 17 ราย พบว่าระดับของไวรัสเพิ่มขึ้นในไม่ช้าหลังจากปรากฎอาการขั้นแรก โดยมีจำนวนไวรัสในจมูกสูงกว่าในลำคอรูปแบบคล้ายกับไข้หวัดใหญ่มากกว่าโรคซาร์ส ระดับไวรัสในผู้ป่วยที่ไม่มีอาการ คล้ายกับสิ่งที่ปรากฏในผู้ป่วยที่มีอาการเช่น มีไข้

“สิ่งนี้บอกได้อย่างชัดเจนว่าไวรัสตัวนี้สามารถหลั่งออกมาจากทางเดินหายใจส่วนบนและผู้คนกำลังหลั่งมันแบบไม่มีอาการ” โปแลนด์กล่าว

ขณะที่ คริสเตียน แอนเดอร์เซ่น นักภูมคุ้มกันวิทยาในสถาบันวิจัยสคริปส์ การค้นพบนี้ยิ่งเพิ่มหลักฐานที่ว่า ไวรัสตัวใหม่นี้แม้ว่าจะมีความคล้ายคลึงกันทางพันธุกรรม(ในกลุ่มสายเชื้อไวรัสโคโรน่า) แต่ก็ไม่ได้แสดงอาการเหมือนโรคซาร์ส ไวรัสนี้มีความสามารถในการแพร่กระจายระหว่างมนุษย์ได้ชัดเจนกว่า โคโรน่าไวรัส ชนิดอื่น ๆ ที่เราเคยเห็น นี่คล้ายกับการแพร่กระจายของไข้หวัดใหญ่

ทั้งนี้ นักวิจัยกล่าวว่า การค้นพบของพวกเขาเพิ่มไปยังรายงานว่า ไวรัสสามารถส่งได้ในระยะแรกของการติดเชื้อและแนะนำว่า การควบคุมไวรัสนั้นจะต้องมีวิธีการที่แตกต่างจากที่รับมือกับโรคซาร์สซึ่งเกี่ยวข้องกับการควบคุมการแพร่กระจายในโรงพยาบาล