“พปชร.” ดึงอดีตนปช.-เด็กเพื่อไทย ตั้งทีมวอร์รูมนอกสภา ได้ “จำลอง ครุฑขุนทด” เป็นหัวหน้า พร้อมสู้ศึกซักฟอกไม่ไว้วางใจ

วันที่ 16 กุมภาพันธ์ ที่พรรคพลังประชารัฐ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมของคณะทำงานวอร์รูมนอกสภา เพื่อเตรียมข้อมูลให้กับนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่าวันเดียวกันนี้พรรคพลังประชารัฐได้เชิญผู้อาวุโสและผู้มีประสบการณ์ของพรรคมาเป็นคณะทำงานสนับสนุนผู้ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งคณะทำงานชุดนี้ล้วนมีประสบการณ์และผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจและรู้ถึงแนวทางในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ดังนั้น ทุกคนจะเข้ามาเป็นผู้สนับสนุนทั้งเชิงข้อมูลและช่วยส.ส.ของพรรคที่จะดำเนินการอภิปรายอย่างสร้างสรรค์ในการตอบโต้ หรือการให้ข้อมูลอย่างสร้างสรรค์ และช่วยให้การอภิปรายเป็นประโยชน์ต่อประชาชน

นายสนธิรัตน์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้คณะกรรมการชุดดังกล่าวมีนายจำลอง ครุฑขุนทด เป็นประธานคณะทำงาน นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ เป็นเลขาฯ นายวัชระ กรรณิการ์ เป็นทีมโฆษกฯ นายทศพล เพ็งส้ม เป็นทีมกฎหมาย นายรณฤทธิชัย คานเขต เป็นหัวหน้าทีมประสานงานฝ่ายสภาผู้แทนราษฎร สำหรับตนเป็นผู้ช่วยดูแลในภาพรวม โดยถือเป็นครั้งแรกของพปชร. ที่ได้รวบรวมผู้อาวุโสของพรรคเข้ามา เพราะการอภิปรายครั้งนี้ฝ่ายค้านพุ่งเป้ามาที่พปชร. แต่เพียงพรรคเดียวและข้อกล่าวหาต่างๆ ก็เป็นข้อกล่าวหาที่เน้นทางการเมืองเป็นหลักไม่ได้เน้นข้อเท็จจริงทั้งหมดทีเดียว และเป็นความตั้งใจที่จะทำให้พปชร. เป็นเป้าหมายทางการเมือง

นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า สำหรับการตั้งคณะกรรมการชุดนี้ ไม่ใช่เพียงแค่มาช่วยเหลือการอภิปรายไม่ไว้วางใจเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการเข้ามาช่วยการทำงานทางการเมืองของพรรคในการสร้างความเข้มแข็ง เพื่อให้พรรคเดินหน้าในการแก้ไขปัญหาประเทศต่อไปได้ โดยคนเหล่านี้จะช่วยประคับประคองการทำงานของพรรคตลอดไป ทั้งนี้ตนจะประสานกับประธานและวิปรัฐบาล เพื่อให้คณะทำงานชุดนี้ได้ประสานกับส.ส.ของพรรคและคณะทำงานชุดอื่นๆ เพื่อได้ร่วมทำงานเป็นทีมเดียวกัน โดยจะตั้งเป็นวอร์รูมตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันอภิปรายโดยคณะทำงานจะประจำที่สภา อย่างไรก็ตาม พรรคและรัฐบาลพร้อมถูกตรวจสอบตามกลไกของสภาผู้แทนราษฏรในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ

ด้านนายจำลอง ครุฑขุนทด กล่าวว่า คณะทำงานชุดดังกล่าวเกิดขึ้น เพราะสมาชิกพรรคอาวุโสเห็นว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ พรรคฝ่ายค้านมุ่งเน้นที่จะเล่นงานพรรคพลังประชารัฐอย่างเดียว จึงเห็นว่าพวกเรากำลังถูกรุมกินโต๊ะจากฝ่ายค้าน จึงนิ่งเฉยไม่ได้ ต้องการมาช่วยพรรค เพื่อให้ความจริงปรากฏว่าแท้จริงเป็นอย่างไร โดยการทำงานมุ่งสนับสนุน โดยคำนึงถึงความคาดหวังของประชาชน เพราะผลสำรวจความเห็นของประชาชนในหลายสำนักต้องการเห็นการอภิปรายครั้งนี้เป็นไปโดยความสงบเรียบร้อย และอยู่ในกติกา ทั้งนี้ อยากเห็นการอภิปรายในครั้งนี้มีเนื้อหาสาระที่เป็นประโยชน์กับประชาชนและประเทศ ทั้งนี้คณะทำงานชุดนี้ได้พิจารณาญัตติของฝ่ายค้าน มีความเห็นร่วมกันว่าเป็นญัตติที่เป็นไปตามฤดูกาลเท่านั้น เมื่อกฎหมายอนุญาตให้อภิปรายไม่ไว้วางใจในสมัยประชุมได้หนึ่งครั้ง แต่โดยปกติเมื่อรัฐบาลเพิ่งเข้ามาทำงานงบประมาณยังไม่ผ่านข้อหาทั้งหมดจึงไม่น่าจะมี และที่ฝ่ายค้านยื่นอภิปรายในครั้งนี้เป็นสิทธิที่สามารถทำได้ คณะทำงานจึงวิเคราะห์กันว่าข้อมูลต่างๆที่เขียนมาในญัตติที่เหมือนจะรุนแรง แต่เนื้อหาในความเป็นจริงเป็นเพียงแค่ญัตติน้ำท่วมทุ่งมากกว่าญัตติฝนแล้ง เพราะตัวญัตติไม่ได้กล่าวถึงการทำงานในขณะนี้ของรัฐบาล แต่เป็นการกล่าวถึงเรื่องในอดีต ตั้งแต่เรื่องการปฏิวัติเป็นต้นมา จึงมีความกังวลเกี่ยวกับการทำงานของสภา จึงได้ตั้งคณะทำงานชุดนี้ขึ้นมาทำงานใกล้ชิดทีมวิปในสภา เพื่อรักษาสถานภาพทางการเมืองในสภาให้เป็นที่พึ่งหวังของประชาชน

นายจำลอง กล่าวว่า วิธีการทำงานเราแบ่งออกเป็นกลุ่มงาน เพราะเวลามีจำกัด 5-6 วัน แต่คณะทำงานชุดนี้จะทำงานตลอดไป ทั้งก่อนและหลังการอภิปรายจะมีการเตรียมข้อมูลเหมือนการทำและเก็งข้อสอบล่วงหน้าให้กับรัฐมนตรีแล้วส่งให้ทีมงานของรัฐมนตรีคนนั้นๆ เพื่อให้มีเนื้อหาที่ดีที่สุดในการตอบคำถามฝ่ายค้าน ส่วนในสภาก็จะประสานงานเพื่อให้การทำงานมีความเรียบร้อย รวมทั้งยินดีประสานงานกับฝ่ายค้านและสภา ผ่านนายรณฤทธิชัย เพื่อให้การประชุมมีประโยชน์ อย่างไรก็ตาม การประท้วงจะไม่เกิดขึ้นเลยถ้าทุกอย่างอยู่ภายใต้กรอบกติกา ถ้าเรามีความร่วมมือระหว่างกัน ประชาชนจะมีความหวังกับการเมืองของเรา

“การทำงานครั้งนี้ ถือเป็นการขับเคลื่อนของพรรคอย่างหนึ่ง การเข้ามาทำงานภายในพปชร. เพราะอยากเห็นบ้านเมืองเดินต่อไปข้างหน้าได้ เพราะเราเจ็บปวดมานานแล้ว วันนี้อยากเห็นการทำงานที่เป็นความหวัง การทำงานช่วงแรกขจะทำการบ้าน ช่วงสองคือการมอนิเตอร์ในการประชุมสภาตลอดเวลา เมื่อรัฐมนตรีคนใดถูกอภิปราย ทีมงานที่เกี่ยวข้องและรับผิดชอบก็จะเข้าเวรมาดูแล งานเราจะสิ้นสุดต่อเมื่อการอภิปรายจบลง” นายจำลอง กล่าว

ขณะที่นายฉลอง เรี่ยวแรง คณะทำงานวอร์รูม กล่าวว่า ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ของฝ่ายค้านอย่ายื่นดาบให้กับรัฐบาล เพราะไม่เช่นนั้นดาบนั้นจะวกกลับไปทิ่มแทงฝ่ายค้านเอง

ด้านนายสุภรณ์ กล่าวว่า สำหรับคณะวอร์รูมชุดนี้ได้กำหนดหัวหน้าทีมเพื่อสนับสนุนผู้ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจโดยเฉพาะ ได้แก่ 1. ทีมสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (กห.) ประกอบด้วย นายจำลอง ครุฑขุนทด ประธานที่ปรึกษาผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าทีม นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี นายทวี สุระบาล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายฉลอง เรี่ยวแรง ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายรณฤทธิชัย คานเขต ที่ปรึกษารองประธานสภาผู้แทนราษฏร และนายเอกภาพ พลซื่อ ที่ปรึกษาผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี

นายสุภรณ์ กล่าวว่า 2. ทีมสนับสนุน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ประกอบด้วย นายสุรพร ดนัยตั้งตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพลังงาน เป็นหัวหน้าทีม นายเวียง วรเชษฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายภิรมย์ พลวิเศษ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และนายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม 3. ทีมสนับสนุนนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ประกอบด้วย นพ.วิชัย ชัยจิตวานิชกุล ที่ปรึกษาผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าทีม นายวัชระ กรรณิการ์ ประจำเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และโฆษกกระทรวงพลังงาน นายสรชาติ สุวรรณพรหม คณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายพิกิฎ ศรีชนะ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม 4. ทีมสนับสนุน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.) ประกอบด้วย นายอำนวย คลังผา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และอดีตประธานวิปรัฐบาล เป็นหัวหน้าทีม นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายธีรทัศน์ เตียวเจริญโสภา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี (ปฎิบัติงานกระทรวงมหาดไทย) และนายสุทธิชัย จรูญเนตร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี

นายสุภรณ์ กล่าวว่า 5. ทีมสนับสนุน นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ประกอบด้วย นายธีรยุทธ วานิชชัง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นหัวหน้าทีม นายทศพล เพ็งส้ม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (ปฎิบัติงานกระทรวงพลังงาน) นายภาคิน สมมิตรธนกุล ผู้อำนวยการฝ่ายยุทธศาสตร์ภาคเหนือ และนายสุชาติ ไตรแสงรุจิระ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำกระทรวงอุตสาหกรรม และ 6. ทีมสนับสนุน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประกอบด้วย นายพรศักดิ์ เจริญประเสริฐ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ เป็นหัวหน้าทีม นายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (ปฏิบัติงานกระทรวงเกษตรฯ) นายธงชัย ลืออดุลย์ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายสมเกียรติ ศรลัมภ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี (ปฎิบัติงานกระทรวงวัฒนธรรม)

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับทีมวอร์รูมที่ตั้งขึ้นมา ล้วนมาจากฟากฝั่งที่เคยร่วมอยู่กับกลุ่มนปช. หรือแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ และพรรคเพื่อไทยในอดีต