“พิพัฒน์” ชี้พิษ”โคโรนา” ทำนักท่องเที่ยวจีนหายวับ 85% เตรียมเวิร์คช้อปร่วมเอกชนหาทางเยียวยา

วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ผ่านมา นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ส่งผลให้เดือนกุมภาพันธ์นี้ นักท่องเที่ยวจีนลดลงร้อยละ 80-85% หรือจากวันละ 30,000 คน เหลือเพียง 3,000 คนต่อวัน ทั้งนี้กระทรวงฯจะทำการประชาสัมพันธ์ให้คนไทยรวมถึงนักท่องเที่ยวในอาเซียนเข้ามาท่องเที่ยวให้มากยิ่งขึ้น เพื่อทดแทนนักท่องเที่ยวจีนที่หายไป ซึ่งขณะนี้นักท่องเที่ยวต่างชาติส่วนใหญ่มั่นใจระบบสาธารณสุขของประเทศไทย ซึ่งติดอันดับ 6 ของโลก

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า จากสถานการณ์ดังกล่าวตลอดทั้งปีนี้ประเทศไทยจะสูญเสียรายได้จากการท่องเที่ยวประมาณ 3 แสนล้านบาท โดยภาครัฐคาดว่าไตรมาส 3 ของปีนี้จะสามารถฟื้นฟูสถานการณ์ให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติได้ พร้อมฟื้นฟูสถานที่ท่องเที่ยว และเร่งช่วยเหลือผู้ประกอบการในชุมชนท้องถิ่น ผู้ประกอบการโรงแรม สายการบิน และร้านอาหาร

สำหรับมาตรการเบื้องต้นเพื่อช่วยเหลือธุรกิจด้านการท่องเที่ยว ในวันที่ 13 กุมภาพันธ์นี้ กระทรวงฯจะร่วมกับส่วนราชการ และผู้ประกอบการภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องด้านการท่องเที่ยว ประชุมร่วมกันและทำการเวิร์คช็อปครั้งใหญ่ เพื่อหาแนวทางเยียวยาระยะสั้นและระยะกลางต่อไป พร้อมกันนี้ยังขอให้คนไทยอย่าได้ตื่นตระหนกกับสถานการณ์ดังกล่าว เนื่องจากภาครัฐมั่นใจว่าจะสามารถควบคุมได้ พร้อมร่วมกันให้กำลังใจชาวอู่ฮั่นให้ผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้

นายพิพัฒน์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ กระทรวงฯ ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และองค์กรเครือข่ายธุรกิจฟู้ดทรัค จัดงาน “World’s Largest Parade of Food Trucks” งานสตรีทฟู้ดระดับเวิล์ดคลาสและขบวนพาเหรดฟู้ดทรัคที่ใหญ่ที่สุดในโลก ระหว่างวันที่ 7-8 มีนาคม 2563 นี้ ณ ริมทะเลสาบ อิมแพ็ค เมืองธานี ซึ่งภายในงานจะมีการออกบูธแสดงสินค้าที่เกี่ยวข้องกับฟู้ดทรัค การประกวดฟู้ดทรัค การจัดพื้นที่สำหรับให้คำปรึกษาและแนะนำแก่ผู้ที่กำลังมองหาธุรกิจฟู้ดทรัคเป็นของตนเอง และกิจกรรมอื่นที่น่าสนใจอีกเป็นจำนวนมาก เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอาหารให้กับประเทศไทย เน้นความน่าสนใจดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้าสู่พื้นที่และกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับชุมชน โดยภาครัฐได้ให้ความสำคัญกับการสนับสนุนสตรีทฟู้ดไทย หรือร้านอาหารริมทางให้เป็นรูปแบบฟู้ดทรัคมากขึ้น ซึ่งคาดว่าจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้อีกทางหนึ่ง