‘บิ๊กตู่’ คว้าไมค์ร้อง 3 เพลงรวด บอก ‘ปรบมือให้ศรีนวลเขาหน่อย’ ส.ส.19 พรรคแดนซ์หน้าเวที

ครึกครื้น “บิ๊กตู่” คว้าไมค์ร้อง “จับมือไว้แล้วไปด้วยกัน-ด้วยรักและผูกพัน-ขอใจแลกเบอร์โทร” ก่อนกล่าวต้อนรับ “ศรีนวล” ลั่นกลางเวที ร่วมรัฐบาลเหมือนพี่น้องร่วมสายเลือด

เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศในงานเลี้ยงสัมมนา ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล ที่มีหัวหน้าพรรค รวมทั้งแกนนำพรรคร่วมพร้อมเพรียง รวมทั้งนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา โดยนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล) ได้กล่าวเปิดงานพร้อมกับตอนรับสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลทุกคน และแนะนำน.ส.ศรีนวล บุญลือ ส.ส.เชียงใหม่ พร้อมขอความร่วมมือสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลในการทำงานในสภาฯ

ขณะที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวตอนหนึ่งว่า ขอให้ทุกคนนำพาเรือเหล็กให้ผ่านพ้นไปได้ ขอให้ทำงานร่วมกันเพื่อประเทศชาติ

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวช่วงหนึ่งระหว่างงานเลี้ยงพรรคร่วมรัฐบาล ว่า ทุกคนที่นั่งอยู่ในที่ ณ ที่นี้ ถ้าแข่งกันมากเกินไป ก็จะไปอีกรูปแบบหนึ่ง แล้วจะไม่ได้อะไรขึ้นมา ประเทศชาติจะไม่ได้อะไรกลับมาเลย เพราะฉะนั้นวันนี้เราต้องรวมพลังกัน เอาประเทศมาเป็นที่ตั้ง อย่าลืมนะ เรามี 19 พรรค ซึ่งเวลาไปต่างประเทศจะถูกถามตลอด พอตนบอกว่ามี 19 พรรคเขาก็สยองเหมือนกัน เขาถามว่า แล้วเราจะอยู่กันได้อย่างไร ตนบอกว่าอยู่ได้ สบายมาก สบายๆ ไทยแลนด์ วันนี้ต้องขอบคุณทุกท่าน ถือว่าเป็นวันนี้ที่เชิญตนมาร่วมงานในวันนี้ ถือเป็นวันแห่งความสุข วันแห่งความเป็นพี่เป็นน้อง ของพวกเราทุกคน วันนี้ขอบคุณทุกท่านถือเป็นวันดี วันแห่งความสุข วันแห่งความเป็นพี่เป็นน้อง ไม่ว่าจะเป็นพรรคใดหรือกลุ่มใด เราก็คือพรรคร่วมรัฐบาล คำว่าร่วมรัฐบาล เปรียบเสมือนการร่วมสายเลือด เพราะฉะนั้น คำว่าร่วมสายเลือดมันลึกซึ้งกินใจและกินความมากกว่าทุกอย่าง การทำงานเราทำเพื่อวันนี้และอนาคต วันข้างหน้ามันจะมีใครอีกถ้าไม่ใช่พวกเรา ทั้งนี้ ยืนยันว่าที่นี่ไม่มีหัวโขน หัวโขนมันที่สภา เพราะตอนแรกเย็นนี้กะจะใส่เสื้อสบายๆ มา แต่ส.ส.ผู้ทรงเกียรติ วันนี้ไม่ได้ร่างคำพูดอะไรมาก่อน เป็นการพูดจากใจ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้หลายท่านมีประชุมสภา บางทีก็ไม่ว่างใส่หัวโขนกันมาทั้งวัน แต่ที่นี้ไม่มีหัวโขน และอย่างที่ได้กล่าวไป ตนใส่เสื้อมาอย่างสบายๆ แต่ลูกน้องบอกว่าไม่ได้ เดี๋ยวส.ส.ผู้ทรงเกียรติจะว่าเอา ก็ต้องใส่เสื้อมาดี ตนอยากจะพูดจากใจ วันนี้ถือว่าเป็นวันดี ขอบคุณทุกท่านที่ให้เกียรติกับตนมาร่วมงานในวันนี้ ถือว่าเป็นวันแห่งความสุข วันแห่งความเป็นพี่เป็นน้องของพวกเราทุกคน ไม่ว่าจะพรรคใดเราก็คือพรรคร่วมรัฐบาลใช่หรือไม่ ทั้งนี้เมื่อนายกฯ พูดถึงช่วงนี้ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลที่อยู่ในงานต่างปรบมือและตะโกนตอบว่า “ใช่” อย่างพร้อมเพรียงกัน

จากนั้นนายกฯ กล่าวอีกว่า เพราะฉะนั้นคำว่าร่วมรัฐบาล มันเหมือนกับร่วมสายเลือด ซึ่งคำว่าร่วมสายเลือดมันลึกซึ้ง กินความมากกว่าทุกอย่าง วันนี้เราทำเพื่อวันนี้และอนาคต แล้ววันหน้า จะมีใครอีก ถ้าไม่ใช่พวกเรา มีหรือไม่ ที่นั่งกันอยู่ตรงนี้ ถ้าเราแข่งกันเองมากเกินไป ก็จะออกมาอีกรูปแบบหนึ่ง แล้วก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา ประเทศชาติไม่ได้อะไรกลับมาเลย เพราะฉะนั้นวันนี้เราต้องรวมพลังกัน เรารวมกันทั้งหมด 19 พรรค เวลาเราไปต่างประเทศ เขาถามตนว่ามีพรรคร่วมรัฐบาลกี่พรรค บอกไปว่ามี 19 พรรค เขาก็สยองเหมือนกัน เขาถามว่าจะอยู่กันได้หรือ 19 พรรค ตนบอกไปว่า นี่มันสบายๆ ไทยแลนด์ อยู่กันได้หมดแหล่ะ เพราะเราเป็นพี่น้องกันทั้งสิ้น มี ใครไม่รู้จักตน หรือมีใครที่ตนไม่รู้จักบ้าง รู้จักทั้งหมดแต่จะรู้จักมากหรือน้อย จำได้บ้างหรือไม่ได้บ้าง บางคนอยู่พรรคตนบางครั้งก็จำไม่ได้ บอกว่าอยู่จังหวัดนั้นจังหวัดนี้ อยู่พรรคพลังประชารัฐบ้าง อยู่พรรคประชาธิปัตย์บ้าง ทั้งหมดรู้จักตนอยู่แล้ว

“แต่ที่น้อยใจคือการทำโพลของสถาบันพระปกเกล้าเขาถามในหัวข้อว่า รู้จักนายกฯ หรือไม่
แต่คำตอบที่ได้ ยังมีว่าไม่รู้จักนายกฯ ประเทศไทยอยู่ 0.3 เปอร์เซ็นต์ ผมก็สงสัยคนพวกนี้อยู่ที่ไหน นั่นแหละคือสิ่งที่เป็นปัญหาของพวกเรา ซึ่งเราทำอะไรก็ตาม ถ้าเขาไม่รู้ใจไม่เข้าใจ ไม่เข้าถึงเขา นั้นคือปัญหาของพวกเรา เป็นความรับผิดชอบของพวกเราทุกคน ที่ทำให้เขาเข้าใจไม่ได้ ต่อให้เราทำ อะไรมากกว่านี้ อีกหลายเท่า เขาก็ไม่รู้ แต่ไม่รู้ว่าจะเข้าหาโอกาสได้อย่างไรเข้าหารัฐบาลได้อย่างไร นั่นคือสิ่งที่ผมขอฝากทุกคนด้วย” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกฯ กล่าวว่า วันนี้สิ่งที่ตนเห็นในสภา ตนก็อยากจะบอกทุกคนว่า เราต้องทำให้สภาของเรา เข้มแข็งมีประสิทธิภาพ มีความเชื่อมั่น ทั้งนี้สิ่งที่ตนได้รับคำสอนมาตลอด ว่าเราต้องหาความดีของคนทุกคนให้ได้ ถ้าเราหาแต่ความไม่ดีของคนทุกคนมันไม่ได้หรอก คบกันไม่ได้ นี่คือสิ่งที่ตนยึดมั่นในหลักการ หรือแม้แต่ลูกน้องก็ต้องหาความดีให้เจอแล้วเอามาใช้งาน เอามาทำงานร่วมกัน แล้วเขาก็จะกลายเป็นคนดีมาก ฉะนั้นวันนี้สิ่งที่ตนต้องการคือ เราจะเดินหน้าประเทศไทยไปอย่างไร อดีตคืออะไรเอามาพิจารณา อะไรที่ไม่ดีเก็บไว้อย่าทำอีก นั่นแหละคือที่มาของหลายๆอย่าง ที่เราแก้ในวันนี้

“อย่างรัฐธรรมนูญเขาเขียนมาเพื่ออะไร เขาไม่ต้องการให้เกิดอย่างเดิม แต่ผมไม่ได้มีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้อง และสิ่งที่ต้องทำในวันหน้าคือ อย่าให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นอีกโดยเด็ดขาด พวกผมเป็นทหาร อยู่กันมาตลอดระยะเวลาเป็นสิบๆปี อยู่ภายใต้การบริหารงานของพวกท่าน ผมไม่เคยมีปัญหาไม่เคยมีจริงๆ เจียมเนื้อเจียมตัว อยู่ในระบบระเบียบให้มากที่สุด จนกระทั่งมีสถานการณ์ ผมก็ข้ามา และเมื่อเข้ามาแล้ว ก็จะทำให้ดีที่สุด แต่ผมทำคนเดียวจะได้หรือไม่ มันไม่ได้ ต้องมีทุกคนที่นั่งอยู่ในห้องนี้ และผมก็เชื่อมั่นด้วยสัญญาของสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษ ทั้งหลายในห้องนี้ ด้วยสัญญาใจที่มีให้กันว่า เราจะนำพาประเทศชาติของเราไปข้างหน้า ไม่หยุดยั้ง เราจะต้องไม่ย่อท้อ ต่อความท้าทายต่างๆ ที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ ไม่ว่าจะเรื่องเทคโนโลยีหรือดิจิตอลต่างๆ ทำอะไรประเทศไทยไม่ได้หรอก เพราะเรามีจิตใจที่มั่นคงบนพื้นฐาน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ทั้งนี้ทันทีที่นายกฯ พูดจบช่วงนี้ ก็มีเสียงปรบมือตามมาทันที จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวแซวตัวเอง “เอ๊ะ สรุปว่ามาหาเสียงหรือเปล่าเนี่ย” ทำให้เรียกเสียงหัวเราะลั่นห้องสัมมนา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากที่พล.อ.ประยุทธ์ ขึ้นกล่าวกับส.ส.โดยประกาศวิสัยทัศน์ของพรรคร่วมรัฐบาลว่าจะนำพาให้ประเทศชาติมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน จากนั้นได้ชวนหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล พรรคเล็ก และน.ส.ศรีนวล ขึ้นเวทีไปร่วมร้องเพลง ด้วยรักและผูกพัน ระหว่างร้องเพลง นายกฯ กล่าวว่า “ขอต้อนรับศรีนวล และปรบมือให้ศรีนวลหน่อย” พร้อมกล่าวว่ายอดเยี่ยม ก่อนที่จะเชิญมาร่วมร้องเพลงที่หน้าเวที

จากนั้นร้องเพลงจับมือไว้แล้วไปด้วยกัน ของ “เบิร์ด” ธงไชย แมคอินไตย สร้างความสนุกสนานให้กับวงรับประทานอาหาร โดยบรรดา ส.ส.ต่างลุกขึ้นร้องเพลงและบางคนถึงกับโยกตามเสียงเพลง