“นรวิชญ์” ร่ายยาวคดียิ่งลักษณ์ ถามสังคม ยอมให้ ม.44 อยู่เหนือกระบวนการศาลได้หรือ?

วันที่ 18 ธันวาคม 2562 นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในคดีโครงการจำนำข้าวได้ออกมาแสดงความเห็นว่า จากการที่ท่านอดีตนายกยิ่งลักษณ์ ได้เปิดความในใจต่อสาธารณะ ในกรณีถูกกรมบังคับคดี ยึด และนำทรัพย์สิน ออกขายทอดตลาด และจากถ้อยแถลงของกรมบังคับคดี ฉบับที่ 33/2562 แล้ว

ผมในฐานะทนายความที่มีส่วนรับผิดชอบในคดีนี้ ขอให้ข้อมูล เกี่ยวกับการเรียกให้อดีตนายกยิ่งลักษณ์ ชดใช้ค่าเสียหาย จำนวน 35,717,237,028.23 บาท และกรมบังคับ ยึด และขายทรัพย์สินของอดีตนายกยิ่งลักษณ์ ดังนี้

1.ตามคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในคดีจำนำข้าว ไม่มีคำพิพากษาตอนใดระบุว่า อดีตนายกยิ่งลักษณ์ ทุจริตหรือให้ชดใช้ค่าเสียหาย

2. แต่การเรียกให้ชดใช้ค่าเสียหาย จำนวน 35,717,237,028.23 บาท เป็นผลมาจาก พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ยึดอำนาจจากอดีตนายกยิ่งลักษณ์มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการความรับผิดทางละเมิดมาคิดค่าเสียหาย โดยคณะกรรมการล้วนแต่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของพลเอกประยุทธ์ และถูกคุ้มครองโดย มาตรา 44 ปัจจุบันคณะกรรมการหลายคนก็ได้ตำแหน่ง สว.

3. และการที่กรมบังคับคดี ดำเนินการยึดและขายทรัพย์สิน ของอดีตนายกยิ่งลักษณ์ ก็เป็นผลมาจาก พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ยึดอำนาจจากอดีตนายกยิ่งลักษณ์ ใช้มาตรา 44 ให้กรมบังคับคดี ทำการยึด อายัด ทรัพย์สิน ซึ่งตามถ้อยแถลงของกรมบังคับคดีฉบับที่ 33/2562 ได้ยอมรับแล้วว่า กรมบังคับคดียึดและขายทรัพย์สินเป็นไปตามคำสั่งมาตรา 44 ซึ่งโดยปกติแล้ว กรมบังคับคดี จะยึด และขายทรัพย์สิน ได้ต่อเมื่อมีคำพิพากษาของศาลแล้วเท่านั้น
4.ปัจจุบันคดีในเรื่องการให้ชดใช้ค่าเสียหาย จำนวน 35,717,237,028.23 บาท นั้น อยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาล

การใช้อำนาจตาม มาตรา 44 จึงไม่ควรเกิดขึ้นกับใคร ที่ต้องมาถูกยึดและขายทรัพย์สิน ทั้ง ๆที่ ยังไม่มีคำพิพากษาของศาล ก็ขอให้สังคมช่วยตรองกันครับว่า ตกลงแล้วเราจะยอมให้ผลของ มาตรา 44 ที่เกิดจากคำสั่งของคนๆเดียว ทำอะไรก็ได้ โดยไม่ผ่านกระบวนการของศาล มีผลบังคับอยู่ อย่างนั้นหรือครับ