(22 ก.พ.) พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ พระภิกษุวัดสร้อยทอง กรุงเทพฯ กล่าวถึงกรณีปฏิบัติการตรวจค้นวัดพระธรรมกาย บริเวณพื้นที่ตามคำสั่งหัวหน้าคสช. ที่5/2560 ซึ่งมีคนจำนวนหนึ่งตั้งข้อสังเกตว่าใช้มาตรการรุนแรงเกินกว่าเหตุหรือไม่ ขณะที่อีกส่วนหนึ่งนั้นเห็นว่า เป็นการปฏิบัติการที่ถูกต้องแล้ว เพราะทุกคนต้องปฏิบัติตามกฎหมาย พระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับหลายคดี ก็ตองนำตัวมาเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย

พระมหาไพรวัลย์ กล่าวว่า ในสังคมพุทธ แบบเมืองไทย ซึ่งชาวพุทธส่วนใหญ่ มีความเชื่อหลากหลาย และพอใจที่จะนับถือลัทธิความเชื่อต่างๆ อะไรก็ได้ผสมปนเปกันอยู่ตลอดเวลา เหมือนแกงโฮะ ที่ถูกจับมาเทใส่กระทะแล้วคนรวมกันจนแยกไม่ออก

การถกเถียงหรือการตั้งคำถามเรื่องความเป็นพุทธแท้-พุทธเทียม ของคนในสังคมนี้ ซึ่งมีความสับสนและไม่เข้าใจในความเป็นตัวเองสูง แทบไม่มีคุณค่าหรือประโยชน์อะไรเลย อย่างน้อยก็ในแง่ที่ว่า มันไม่ได้นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมหรือความพอใจที่จะเชื่อแบบนั้นของคนพุทธส่วนใหญ่ในสังคมไทยจริงจริง (ด่าธรรมกายเสร็จแล้ว เดี๋ยวกูก็ไปไหว้ผี ดูหมอ ขอพรเทพเจ้าเหมือนเดิม)

อันนี้สงสัยจริงจริงนะ คือหลายครั้งก็งงว่าจะมาเถียงกันทำไม (คิดคนเดียว) ก็ในเมื่อคนพุทธในสังคมส่วนใหญ่มันก็ไม่ใช่พุทธแท้แต่เดิมอยู่แล้ว วัดในประเทศไทย 80 เปอร์เซ็นต์ มันก็ไม่ใช่พุทธเวอร์ชั่นแรกที่เป็นออริจินอล คือมันผสมผสานกันมั่วไปหมด บางวัดนึกจะเป็นมหายานก็เป็น บางวัดนึกจะเป็นฮินดูก็เป็น สร้างเจ้าแม่กวนอิม สร้างพระพิฆเนศ กันมั่วไปหมด แล้วคนส่วนใหญ่ก็ชอบ

นี่ไง ก็ในเมื่อมันเป็นแบบนี้ เราจะมาถามหาความเป็นพุทธแท้-พุทธเทียมกันทำไม คือถามเอาอะไร ถามหาสิ่งซึ่งไม่มีอยู่ในความเป็นจริงส่วนใหญ่ ไปเพื่ออะไร อันนี้ต่างหากที่อาตมาสงสัย ถามเพื่อที่เราจะพากันเปลี่ยนตัวเองเพื่อเป็นพุทธศาสนิกชนที่จริงจังกับแนวทางของพุทธศาสนา จริงจริงใช่ไหม

เหมือนอย่างที่กำลังซีเรียสกับวัดพระธรรมกาย ก็เหมือนกัน บางคนจะเป็นจะตาย ด่าธรรมกายเหมือนกับว่าเป็นสิ่งแปลกปลอมอันเดียว ในท่ามกลางสังฆมณฑลอันมีความสะอาดบริสุทธิ์ทั้งหมด นี่พูดถึงในแง่ที่ว่า บางคนอยากให้กำจัดธรรมกายให้สิ้นซาก หรือมีความรู้สึกเหยียดดูถูกพวกที่ศรัทธาวัดธรรมกายว่า โง่ดักดาน อะไรแบบนี้ คือ ทำไมไม่รู้สึกถึงความย้อนแย้งในตัวเองบ้าง หรือไม่รู้สึกว่า วัดแถวบ้านบางอย่างนี่แย่กว่าธรรมกายอีกนะ หรือบางทีก็แย่กว่าคนที่เข้าวัดพระธรรมกายอีกนะ อะไรแบบนี้

อาตมาไม่เข้าใจว่า ทำไมคนส่วนใหญ่ถึงคิดว่า ถ้ากำจัดธรรมกายได้แล้ว พุทธศาสนาในประเทศไทยมันจะมีแต่ความเป็นของแท้บริสุทธิ์ผุดผ่องอำไพ หรือจะสถิตสถาพรอย่างหมดจดตลอดไป อ้อ ไอ้ที่เข้าวัด ไปเที่ยวกันวันหยุด ไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไปขอพรเทพเจ้า ไปร่วมพิธีสะเดาะเคราะห์ เช่าวัตถุมงคล กระซิบข้างหูรูปปั้นหนู เอาหน้าผากเตะนิ้วมือเทพทันใจ นี่มันสังกัดสำนักธรรมกาย หมดเลยใช่ไหม หรือว่าเป็นสาขาย่อย เป็นพวกหน้าโง่ที่ศรัทธาธรรมกาย

อาตมาอยากจะชี้ให้ได้เห็นด้วยการเคารพความจริงนะว่า ถ้าเรามองพุทธศาสนา โดยพื้นฐานของความเป็นพุทธแท้พุทธเทียม หรือของความที่ต้องเป็นแบบนี้เท่านั้น ถ้าแบบอื่นไม่ใช่ อย่างเดียว มีความเกลียดชัง มีความดูแคลน จนถึงขั้นว่า ต้องกำจัดกันให้สิ้นซาก เราจไม่เหลือสิ่งที่เรียกว่าศาสนาพุทธให้นับถือเลย ถึงมีที่มันใกล้เคียงกับของแท้ดั่งเดิมจริงจริง ดีไม่ดีเราอาจไม่ชอบด้วยซ้ำ เพราะมันไม่ถูกจริต และเข้าถึงยากเกินไป

อยากจะถามว่า มีกี่คนที่ไปสวนโมกข์เพื่อปฏิบัติธรรมทุกเดือน หรือเข้าวัดหนองนาป่าพง เพื่อไปถือศีลทุกอาทิตย์ รักษาอุโบสถศีลแยกนอนกับผัวหรือเมียทุกวันพระใหญ่

เอาเข้าจริง คนส่วนใหญ่ที่พูดถึงความแท้ของพุทธศาสนา ก็ชอบพุทธแบบเมืองเมือง พุทธที่เทียมครึ่งหนึ่งแท้ครึ่งหนึ่ง พุทธที่มีพระมาบิณฑบาตตอนเช้า แล้วคุณก็ซื้อกับข้าวสำเร็จรูป แกงถุงข้าวถุงใส่บาตร โดยไม่สนใจว่า พระจะฉันได้ไม่ได้ยังไง ใส่ซองให้พระ แล้วก็ไปด่าพระว่ารับเงินรับทอง ชอบพุทธแบบที่ถือถังสังฆทานราคา 299 แต่ใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้เลย ไปวัด ชอบพุทธแบบที่พระให้พร พรมน้ำมนต์ให้ เจิมรถ เจิมบ้านได้ พุทธแบบจะไปสะเคราะห์ปล่อยปลาปล่อยเต่า เอาเงินใส่ตู้ เพื่อซื้อโลงศพ หรือไถ่ชีวิตโคกระบือ เมื่อไหร่ก็ได้ เพื่อความสบายใจ ชอบพุทธสายปฏิบัติ แบบที่ห้องวิปัสสนาต้องเปิดแอร์เย็นช่ำ หรือมีห้องน้ำสะอาดสะอาด ห้องนอนหรูหรูในวัดไว้บริการ

ทั้งหมดที่พูดมานี่ พุทธแบบที่พวกคุณชอบใจกัน หรือถูกกับจริตและอัธยาศัย นับถือกันมาจนทุกวันนี้ เป็นพุทธแท้แน่แล้วใช่ไหม มีแค่วัดธรรมกายใช่ไหมที่มันนอกรีต ไหนใครช่วยตอบอาตมาที เผื่อว่า อาตมาจะเข้าใจความเป็นพุทธแท้พุทธเทียมของคนในสังคมพุทธบ้านเมืองนี้ ได้ดีกว่านี้