“ชูศักดิ์” ไม่เห็นด้วยปมดำเนินคดีแฟลชม็อบ บอก หากยังเคารพต่อสิทธิเสรีภาพของปชช. ก็ควรเปิดใจกว้างรับฟังความเห็นต่างบ้าง ไม่ใช่ฟังเฉพาะฝ่ายที่เห็นด้วยกับรบ.เท่านั้น

เมื่อวัน 16 ธันวาคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และประธานคณะทำงานด้านกฎหมายของพรรค ได้ให้ความเห็นต่อกรณีที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมดำเนินคดีกับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และผู้เข้าร่วมกิจกรรมแฟลชม็อบ เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2562 ณ บริเวณสกายวอล์ค สี่แยกประทุมวันว่า เรื่องนี้อยากฝากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและรัฐบาลได้พิจารณาให้รอบคอบ ไม่ควรเร่งรีบที่จะใช้ พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 ดำเนินคดีกับผู้เข้าร่วมกิจกรรม เนื่องจากตนมองว่า การจัดกิจกรรมในลักษณะนี้ โดยพื้นฐานแล้วเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงออกทางการเมืองของประชาชน มีเสรีภาพในการชุมนุมอย่างสงบและปราศจากอาวุธ ทั้งนี้ ตามที่รัฐธรรมนูญได้รับรองและคุ้มครองไว้ ลักษณะของการจัดกิจกรรมก็เป็นเพียงการเชิญชวนให้มีการพูดคุยกันในช่วงเวลาสั้นๆ เพียงหนึ่งชั่วโมง เพียงแต่เหตุการณ์ในวันดังกล่าวมีประชาชนเข้าร่วมพบปะกันจำนวนมาก จึงทำให้มองได้ว่าเป็นการชุมนุมไป เนื่องจากตามกฎหมายมีการนิยามคำว่า “การชุมนุมสาธารณะ” ไว้ค่อนข้างกว้าง เปิดช่องให้มีการตีความว่า การทำกิจกรรมในที่สาธารณะของบุคคลกลุ่มต่างๆ จะถูกตีความว่าเป็นการชุมนุมสาธารณะทั้งหมด ไม่ว่ากิจกรรมนั้นจะมี 10 คน หรือ 20 คน ก็ตาม จึงอยากฝากไปถึงรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า หากท่านยังเคารพต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชน ก็ควรเปิดใจกว้างรับฟังความคิดเห็นของประชาชนที่เห็นต่างบ้าง ไม่ใช่รับฟังเฉพาะฝ่ายที่เห็นด้วยกับรัฐบาลเท่านั้น ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ของแฟลชม็อบก็ไม่ได้ก่อให้เกิดผลกระทบ หรือความเสียหายใดๆ แต่กลับเป็นไปด้วยความสงบปราศจากความรุนแรงใดๆ อีกทั้งมีความเรียบร้อยอย่างมาก ดังนั้น การจะใช้กฎหมายเพื่อเป็นเครื่องมือทางการเมืองปิดปากประชาชนผู้เห็นต่างนั้น จึงไม่ใช่วิสัยของรัฐบาลประชาธิปไตย แต่จะไม่ต่างกับรัฐบาลเผด็จการในยุค คสช. และกฎหมายการชุมนุมสาธารณะ ก็ออกมาในยุค คสช. ซึ่งมีหลายอย่างที่ควรจะแก้ไขปรับปรุงและอาจมีปัญหาอีกว่ากฎหมายฉบับนี้ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญหรือไม่ กฎหมายฉบับนี้มีความพยายามจะตราขึ้นในยุคประชาธิปไตย แต่ไม่สำเร็จมาสำเร็จเอาในยุค คสช. ตนเองจึงไม่เห็นด้วยที่จะนำกฎหมายการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 มาใช้กรณีนี้