วันที่ 15 ธันวาคม 2562 นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ตามที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม บอกว่ารัฐบาลจะแถลงผลงาน 6 เดือน ซึ่งก็แปลกใจว่าจะแถลงผลงานอะไร เพราะตลอดเวลาที่รัฐบาลบริหารงานมายังไม่ได้ทำตามนโยบายที่สัญญาไว้กับประชาชนเลย อย่างเช่น ค่าแรงขั้นต่ำก็ขึ้นเพียง 5-6 บาท ซึ่งห่างจาก 400-425 บาท ตามที่หาเสียงไว้มาก เบี้ยผู้สูงอายุที่หาเสียงไว้ที่ 1,000 บาท รมว.พัฒนาสังคมฯ ก็ออกมาปฏิเสธแล้ว อีกทั้งนายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ก็ได้ปฏิเสธที่จะลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 10% ตามที่ได้สัญญาไว้ โดยอ้างว่าพูดไว้กว้างๆไม่ได้ลงรายละเอียด นอกจากนี้กระทรวงพาณิชย์ที่อ้างว่าได้ช่วยเหลือเกษตรกรแล้ว ก็อยากให้ช่วยตามที่ได้หาเสียงไว้คือ ยางพารา 65 บาท/ กก. ปาล์มน้ำมัน 5 บาท/ กก. อ้อย 1,000/ตัน มันสำปะหลัง 3 บาท/กิโล ข้าวหอมมะลิ 18,000 บาท/ ตัน ข้าวเจ้า 12,000 บาท/ ตัน ทั้งนี้ ยังมีนโยบายที่สัญญาไว้อีกเช่น จบอาชีวะเงินเดือน 18,000 บาท จบปริญญาตรีเงินเดือน 20,000 บาท โครงการมารดาประชารัฐ กองทุนพลังประชารัฐหมู่บ้านละ 2 ล้านบาท พักหนี้กองทุนหมู่บ้าน 4 ปี ยกเว้นภาษีการค้าออนไลน์ 2 ปี ซึ่งยังไม่ได้มีการดำเนินการเลย โครงการเหล่านี้ได้เคยเตือนแล้วว่าจะต้องใช้เงินจำนวนมากซึ่งรัฐบาลไม่น่าจะทำได้ แต่นายอุตตม หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐยืนยันว่าทำได้จริง แต่พอเป็นรัฐบาลกลับไม่ทำเลย

นายพิชัย กล่าวว่า ดังนั้นจึงอยากให้พล.อ.ประยุทธ์ ได้รักษาคำมั่นสัญญาที่พรรคพปชร.ได้ให้ไว้กับประชาชนและได้ดำเนินทุกนโยบายที่สัญญาไว้ ซึ่งหากทำไม่ได้ ก็ต้องให้ กกต. พิจารณาลงโทษ และ ดำเนินคดี ตามกฏหมาย นอกจากนี้ พรรคพลังประชารัฐเองยังต้องชี้แจงที่มาของรายได้ และ ความคุ้มทุนของแต่ละนโยบายตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดด้วย หากทำไม่ได้ก็ต้องถูกดำเนินคดีอีกเช่นกัน ประเทศไทยพัฒนามาเกินกว่าที่จะมีพรรคการเมืองที่เพียงแต่พูดหาเสียงแต่ไม่ทำแล้ว ถ้าไม่ทำแล้วจะหาเสียงทำไม จึงอยากให้ประชาชนช่วยกันเรียกร้องให้รัฐบาลทำตามสัญญาประชาคม โดยหากรัฐบาลทำงานครบ 6 เดือนในวันที่ 10 มกราคม แล้วรัฐบาลยังไม่มีวี่แววที่จะรักษาคำพูด อีกทั้งหากประชาชนยังไม่พอใจกับเรื่องเศรษฐกิจที่ย่ำแย่สุดขีดในตอนนี้ อยากให้ประชาชนพากันออกมาแสดงพลังกันมากๆในการวิ่งไล่ลุง วันที่ 12 มกราคมนี้ โดยอยากให้มากันมากกว่าที่สกายวอร์คหลายๆเท่า เพื่อส่งสัญญาณให้รัฐบาลทราบว่าประชาชนทนกันไม่ไหวแล้วในภาวะเช่นนี้