เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น โพสต์ข้อความตอบโต้ กรณี โฆษกกระทรวงกลาโหม ตั้งคำถามต่อกิจกรรมการวิ่งไล่ลุง ว่า มีการเมืองแอบแฝงเบื้องหลังหรือไม่ ใครจะเข้าร่วมขอให้คิดให้ดี ว่า

รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ปี พ.ศ. 2560 มาตรา 50 บัญญัติให้ “บุคคลมีหน้าที่ (1)พิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (2) ป้องกันประเทศ พิทักษ์รักษาเกียรติภูมิ ผลประโยชน์ของชาติ ฯ (3) ปฏิบัติตามกฏหมายอย่างเคร่งครัด (8) ร่วมมือสนับสนุนการอนุรักษ์และคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ ฯ (10) ไม่ร่วมมือหรือสนับสนุนการทุจริตและประพฤติมิชอบทุกรูปแบบ

การออกมาวิ่งไล่เผด็จการทหาร คนชั่ว คนโกง คนทำลายกฏหมายบ้านเมือง คนบุกรุกทำลายป่ารวมถึงคนที่สนับสนุนคนที่ทำความผิด การออกมาไล่คนทำลายชาติบ้านเมือง คนที่ฉีกรัฐธรรมนูญ คนที่ทำลายระบบนิติรัฐ คนที่ทำลายการปกครองระบอบประชาธิปไตย มันจะผิดได้อย่างไร เพราะนั่นคือหน้าที่ของบุคคล (ไทย)ตามรัฐธรรมนูญ

ทหารบางคนที่ไม่ทำหน้าที่นี้ ก็อย่าปากเสีย ไม่ต้องออกมาข่มขู่ประชาชนที่รักชาติ ประชาชนคิดได้ดีกว่าทหารบางคน จึงกล้าออกมาทำหน้าที่ของบุคคลตามรัฐธรรมนูญ

เช่นเดียวกับ นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ หมอนักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมและพลังงาน โพสต์ข้อความถึงกิจกรรมดังกล่าวว่า

ความเป็นธรรมที่ได้มาเพราะประชาชนทั้งกดและดัน…แต่…

ความเป็นธรรมและความยุติธรรมนั้นเป็นของหายาก คดีเสือดำ คุณเปรมชัยถูกศาลอุทธรณ์ตัดสินจำคุก 2 ปี 14 เดือน ส่วนหนึ่งแน่นอนว่าเป็นเพราะสังคมเฝ้ามองและทั้งกดทั้งดันมายาวนาน แต่เปรมชัยไม่ใช่สายตรง คสช. วิษณุบริกรจึงไม่ได้ออกมาชิงตีความตัดตอน เปรมชัยจึงต้องติดคุกนิดหน่อยเพื่อให้สังคมไทยสบายใจว่า “ประเทศไทยยังมีความเป็นธรรม”

ส่วนคดีเอ๋1,700ไร่ นาฬิกายืมเพื่อน25เรือน เลี้ยงโต๊ะจีนระดมทุนพรรคพลังประชารัฐ ส่อทุจริตอุทยานราชภักดิ์ ซื้อทีจี200มาแล้วใช้การไม่ได้  มีหมายจับแต่มาเสียบบัตรลงคะแนนได้ สารพัดประเด็นของพวกพ้อง ค่อนข้างชัดเจนว่า “ความเป็นธรรมไม่มี ความยุติธรมไม่ปรากฏ ช่วยกันเต็มที่เพื่อพวกพ้อง”

หรือเพราะเราภาคประชาชนยังไม่เข้มแข็งพอ ยังไม่กดไม่ดันพอ ว่าแล้ว เราไป “วิ่งไล่ลุง” กันดีกว่า