ครม.เพิ่มบทบัญญัติร่างกม.ประกันชีวิต-วินาศภัย ปิดทางจนท.แสวงหาผลประโยชน์

ครม.เพิ่มบทบัญญัติ พ.ร.บ.ประกันชีวิต-วินาศภัย ปิดทางจนท.แสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ

นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมครม.อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกันชีวิต และร่างพ.ร.บ.ประกันวินาศภัย ซึ่งเป็นพ.ร.บ.ที่ใช้มาแล้ว ตั้งแต่ปี 2535 โดยในเนื้อหาของพ.ร.บ.ทั้งสองฉบับขาดบทบัญญัติ ที่จะช่วยส่งเสริมการโอนกิจการ และการจัดการในกรณีมีการแสวงหาผลประโยชน์ โดยมิชอบ หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และผู้ที่เป็นตัวการร่วม หรือให้การสนับสนุน

ฉะนั้น เนื้อหาที่ยังไม่ครบในส่วนนี้ ครม.เห็นชอบให้มีการปรับปรุงแก้ไข พ.ร.บ.ทั้งสองฉบับดังกล่าว ให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน จึงมีการเพิ่มเติมบทบัญญัติดังกล่าวใน 3 ส่วนคือ 1.การโอนกิจการที่มีผลให้ต้องมีการเปลี่ยนแปลงตัวลูกหนี้ผู้รับประกันภัย เมื่อบริษัทผู้รับโอนกิจการมีหนังสือบอกกล่าวที่มีผลให้ต้องมีการเปลี่ยนแปลงตัวลูกหนี้ ผู้รับประกันภัย เมื่อบริษัทผู้รับโอนกิจการ มีหนังสือไปยังผู้รับประกันภัยว่าบริษัทรับโอนกิจการมาแล้ว และแจ้งสิทธิให้ผู้ประกันภัยคัดค้าน หากไม่มีการคัดค้าน ก็ให้ถือว่าเป็นการแปลงหนี้ใหม่ ด้วยการเปลี่ยนตัวลูกหนี้ ผู้รับประกันภัย 2.การให้บริษัทสามารถจดทะเบียนควบรวมกิจการได้ ก็ต่อเมื่อเจ้าหนี้ทุกรายให้ความยินยอมเป็นหนังสือโดยไม่ต้อรอให้พ้นระยะเวลาคัดค้าน 3 .ให้บริษัทที่รับโอนกิจการสามารถเข้าสวมสิทธิ์ เป็นคู่ความแทนบริษัทที่โอนกิจการในคดีที่มีการฟ้องร้องในศาลได้ โดยสวมสิทธิเป็นเจ้าหนี้หรือลูกหนี้ ตามคำพิพากษาได้

นอกจากนี้ ยังมีการเพิ่มเติมบทกำหนดโทษ เช่น การแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ หรือปฏิบัติ หน้าที่โดยมิชอบของกรรมการ พนักงานบริษัท จัดทำรายงานรับรอง หรือแสดงความเห็น เกี่ยวกับการดำเนินงานของบริษัทอันเป็นเท็จ