“ไพบูลย์” เตือน “เสรีพิศุทธ์” ยังไม่หยุดกลั่นแกล้ง “บิ๊กตู่” จะโดน ม.157

“ไพบูลย์” แนะ “บิ๊กตู่” ส่งคืนหนังสือเรียกของ “เสรีพิสุทธิ์” แจง กมธ.ป.ป.ช. 20 พ.ย.นี้ เหตุกระทำโดย ผิด ก.ม. เตือนระวังเจอ ร้อง “ป.ป.ช.” ผิดมาตรา 157
เมื่อวันที่ 16 พ.ย. นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณีที่ตนได้ ยื่นเรื่องคำร้อง เมื่อวันที่ 6 พ.ย. 2562 เพื่อขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณาวินิจฉัยเสนอเรื่องพร้อมด้วยความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญกรณี พ.ร.บ.คำสั่งเรียกของคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา พ.ศ. 2554 มาตรา 5 มาตรา 8 และมาตรา 13 มีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 129

ซึ่งต่อมาในวันที่ 15 พ.ย.2562 ผู้ตรวจการแผ่นดินได้มีมติเป็นเอกฉันท์ เห็นชอบให้เสนอเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาวินิจฉัยต่อนั้น ซึ่งตนเห็นว่า การที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ประธานคณะกรรมาธิการ การป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ( กมธ.ป.ป.ช.) ได้ลงนามในหนังสือด่วนที่สุด ที่ สผ.0019.05/945 เชิญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม มาชี้แจงแถลงข้อเท็จจริงต่อ กมธ.ป.ป.ช.ในวันที่ 20พ.ย. 2562

ในประเด็นข้อซักถาม ระบุไว้ 16 ข้อ ทั้งนี้ เนื้อหาในหนังสือระบุว่าอาศัยอำนาจตามมาตรา 129 วรรคสี่ ของรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ประกอบมาตรา 6 แห่งพ.ร.บ.คำสั่งเรียกของคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา พ.ศ. 2554 โดยหนังสือระบุไว้มุมบนขวาว่า กมธ.(บค.)1นั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ประธาน กมธ.ป.ป.ช.ได้ดำเนินการ ออกหนังสือฉบับดังกล่าว ตามแบบ กมธ.(บค.)1 เป็นไปตาม พ.ร.บ.คำสั่งเรียกของคณะกรรมาธิการฯ มาตรา 6 ที่ตนได้ตรวจสอบพบว่าขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 129 เนื่องจากได้บัญญัติให้คณะกรรมาธิการมีอำนาจ “สอบสวน”

ซึ่งเป็นการขัดต่อเอกสารหลักฐานความมุ่งหมายและคำอธิบายประกอบรายมาตราของรัฐธรรมนูญ มาตรา 129 ที่อธิบายไว้ ว่าเจตนารมย์แห่งรัฐธรรมนูญ วางหลักการใหม่ให้คณะกรรมาธิการไม่มีอำนาจ “สอบสวน” แต่ให้มีอำนาจเพียง “สอบหาข้อเท็จจริง” เท่านั้น

จึงทำให้ พ.ร.บ.คำสั่งเรียกของคณะกมธ. มาตรา 6 ซึ่งปรากฏให้คณะกรรมาธิการมีอำนาจ”สอบสวน”จึงขัดต่อความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ มาตรา 129 เช่นเดียวกับ พ.ร.บ.คำสั่งเรียกของกมธ. ในมาตรา 5 มาตรา 8 และมาตรา 13 ซึ่งผู้ตรวจการแผ่นดินมีความเห็นไปแล้วว่า มาตราดังกล่าว ขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 129

นายไพบูลย์ กล่าวต่อว่า ดังนั้นการออกหนังสือเรียกให้นายกรัฐมนตรีมาชี้แจงครั้งล่าสุดของพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ประธาน กมธ.ป.ป.ช.นอกจากขัดต่อรัฐธรรมนูญแล้ว ในหนังสือฉบับดังกล่าวยังระบุเรื่องที่ขอให้ชี้แจงแถลงข้อเท็จจริงคำถามจำนวน 16 ข้อที่ไม่อยู่ในกรอบอำนาจของกมธ.ป.ป.ช.วิญญูชนที่ได้อ่านคำถามดังกล่าวแล้ว

ย่อมเห็นได้อย่างชัดเเจ้งว่า มีเจตนาจงใจกลั่นแกล้งผู้ที่ต้องไปชี้แจงแถลงข้อเท็จจริง จึงอาจเข้าข่ายเจ้าหน้าที่รัฐ ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และประกอบกับกรณีดังกล่าวผู้ตรวจการแผ่นดินได้เสนอเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยพ.ร.บ.คำสั่งเรียกของกมธ.ขัดหรือเเย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา129 แล้ว

“ผมจึงเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ควรปฏิเสธไม่ไปชี้แจงต่อ คณะกมธ.ป.ป.ช.ตามหนังสือที่สผ.0019.05/945 หรือพิจารณาส่งคืนหนังสือฉบับดังกล่าวโดยเหตุที่เป็นการออกหนังสือโดยมิชอบด้วยกฏหมายหลายประการ

และ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ประธาน กมธ.ป.ป.ช.ควรเร่ง ขอยกเลิกหนังสือฉบับดังกล่าวโดยเร็ว เพื่อป้องกันการถูกฟ้องร้องดำเนินคดีต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ในความผิดตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 157” นายไพบูลย์ กล่าว