หัวหน้าอุทยานแก่งกระจานยัน ยังไม่ได้รับคำสั่งอธิบดีกรมอุทยานฯสั่งย้าย

เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน นายมานะ เพิ่มพูล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เปิดเผยว่า จากกรณีมีกระแสข่าวสั่งย้ายให้พ้นจากตำแหน่งหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน หลังจากศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร และพวกอีก 3 คน คดีฆาตกรรมและซ่อนเร้นอำพรางศพนายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ แกนนำกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย จ.เพชรบุรี ก่อนได้รับการประกันตัวออกมานั้น ยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเพียงกระแสข่าว ขณะที่อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ยังไม่มีคำสั่งใดๆ เพื่อแต่งตั้งโยกย้าย แต่ยอมรับว่าหลังจากมีสื่อบางแขนงเสนอข้อมูลการโยกย้าย ทำให้มีผู้สนใจสอบถามจำนวนมาก ซึ่งการย้ายเป็นอำนาจของผู้บังคับบัญชาจะพิจารณาตามความเหมาะสม แต่ขณะนี้ยังปฏิบัติงานตามปกติ และหากมีการย้ายจริงทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะต้องชี้แจงเหตุผลได้ แม้ว่าอาจจะย้ายไปรับตำแหน่งที่สูงขึ้น

“การทำงานก่อนหน้านี้ถึงปัจจุบันนานกว่า 3 ปี ยังไม่มีข้อบกพร่อง ทั้งโครงการปลูกป่า การมีส่วนร่วมกับชุมชนในการอนุรักษ์ การแก้ปัญหาช้างป่าละอูบุกรุกชุมชนที่ ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน การแก้ปัญหาที่ดินทำกิน การรวบรวมข้อมูล เพื่อนำเสนอให้ผืนป่าแก่งกระจานเป็นมรดกโลกในปีต่อไป แต่ยอมรับว่าบางประเด็นเกี่ยวกับแนวทางการแก้ไขปัญหาการบุกรุกป่าของกลุ่มชาติพันธ์ อาจทำให้บางฝ่ายไม่พอใจ เนื่องจากตนไม่สามารถดำเนินการได้ในบางเรื่องที่ขัดแย้งกับการใช้อำนาจหน้าที่ตามกฎหมายในขั้นตอนปกติ“ นายมานะกล่าว

ด้านแหล่งข่าวระดับสูงของกรมอุทยานฯ ระบุว่า ก่อนหน้าจะมีกระแสข่าวการโยกย้ายหัวหน้าอุทยานแก่งกระจาน มีข้อมูลยืนยันว่า นายชัยวัฒน์ จะเดินทางไปที่สะพานภายในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานจุดพบกระดูกนายบิลลี่ เพื่อทำพิธีสาบานว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสูญหายของนายบิลลี่ แต่เกรงว่าการสาบานจะส่งผลให้มีปัญหาจากดีเอสไอ เสนอถอนการประกันตัว จึงยุติการดำเนินการ ขณะที่ ดีเอสไอให้ความสนใจข้อมูลกรณีที่ ป.ป.ท.ดำเนินการสอบข้อเท็จจริงกรณีนายชัยวัฒน์ ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการทุจริตการปลูกป่า 4,000 ไร่ การฮั้วประมูลการจัดสร้างหน่วยพิทักษ์อุทยาน คดีเผากระท่อมปู่คออี้ ขณะทำหน้าที่หัวหน้าอุทยานแก่งกระจาน