“ชำนาญ” อ่านเกม”ปชป.-พปชร.” แย่งเก้าอี้ปธ.ศึกษาแก้รธน. ชี้ ต่างฝ่ายถือไพ่คนละใบ

“ชำนาญ” อ่านเกม ศึก “ปชป.-พปชร.” แย่งเก้าอี้ปธ.กมธ.แก้รัฐธรรมนูญ เผย แต่ละฝ่ายถือไพ่สำคัญคนละใบ เป็น เกมแห่งอำนาจ ต่อรองทางการเมือง

เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน นายชำนาญ จันทร์เรือง รองหัวหน้าพรรค และส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ (อนค.) แสดงความเห็นต่อประเด็นการเสนอชื่อคนที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ เพื่อศึกษาแนวทางปัญหา และการแก้ไขรัฐธรรมนูญระหว่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรไทยคนที่ 1 และส.ส. พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่า ขณะนี้ยังไม่มีการหารือของวิปฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล แต่ประเด็นน่าสนใจคือ การเข้ามามีส่วนร่วมใน กมธ.วิสามัญ แก้ไขรัฐธรรมนูญ ของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่อาจจะส่งส.ส.ฝ่ายรัฐบาล และนักวิชาการที่สนับสนุนรัฐบาลเข้ามานั่งกมธ.ชุดนี้ เราก็เห็นว่าไม่ถูกต้อง เพราะไม่เป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการใช้งบประมาณ หากครม.เข้ามาทำเช่นนี้ การศึกษาเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญก็อาจจะเป็นไปอย่างยากลำบาก เพราะเริ่มต้นก็ทะเลาะกันแล้ว ความจริงในทางปฏิบัติวิปทั้งสองฝ่ายต้องตกลงกันก่อน หากหาข้อสรุปไม่ได้ก็ต้องโหวตกันในสภาผู้แทนราษฎร

นายชำนาญ กล่าวอีกว่า ตนเห็นว่า กมธ.ชุดนี้มีไว้เพื่อศึกษาเพื่อให้เกิดการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เช่น อาจจะหาช่องเพื่อให้เกิดการแก้ไขได้ง่าย หรือว่าสามารถแก้ไขโดยไม่ใช้ส.ว. ซึ่งตนเห็นว่าเป็นด่านที่หฤโหด ส่วนสำคัญคือการได้รับฉันทามติจากประชาชน ช่วยผลักดันด้วย ด้านนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนค. คงไม่เสนอตัวเข้ามานั่งตำแหน่งประธานกมธ. เพราะความจริงแล้วตำแหน่งประธานฯ ทำหน้าที่เพียงกำกับการประชุม และมักจะงดออกเสียง คนที่เป็นๆ กัน มักจะไม่อยากมาเป็นประธานฯ หน้าที่สำคัญจะเป็นของสมาชิกกมธ. ที่อยากจะเข้าไปนำเสนอ และออกเสียงในมติต่างๆ

ส่วนการแย่งชิงตำแหน่งประธานกมธ. ระหว่างพรรค ปชป. และพรรคพปชร. เป็นสัญญาณของรอยร้าวในฝ่ายพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายชำนาญ ออกความเห็นในประเด็นนี้ว่า เราต้องรู้อย่างชัดเจนก่อนว่า การเมืองมันไม่มีมิตรแท้และศัตรูที่ถาวร โดยการแย่งกันเสนอชื่อนี้ ก็เป็นเหมือน ‘Power Play’ หรือเกมแห่งอำนาจระหว่างสองพรรคการเมือง

“เพราะประชาธิปัตย์ก็ถือไพ่ใบสำคัญ รัฐบาลก็ขาดประชาธิปัตย์ไม่ได้ ประชาธิปัตย์ถ้าไม่ได้เป็นรัฐบาลก็ลำบาก เพราะสมาชิกก็จะเล่นงานเอา กลุ่มที่อยากเข้ารัฐบาลก็มีอยู่ เป็นการถือไพ่กันคนละใบ แต่ทั้งนี้ก็ต้องมีการเจรจากันทั้งนั้น ผมมองว่าเป็นเรื่องปกติ ถ้าตราบใดยังใช้อามิส สินจ้าง หรือใช้วิธีการงูเห่าเข้ามา หากนายสุชาติได้เป็นประธานฯ เราก็ไม่มีปัญหา คาดว่าจะได้ข้อสรุปเรื่องตำแหน่งประธานกมธ.ในสัปดาห์หน้า” นายชำนาญกล่าว