วันที่ 6 พฤศจิกายน 2562 ท่ามกลางกระแสแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 ที่ยกระดับจากการเคลื่อนไหวในภาคประชาชนสู่พรรคการเมือง และยังถือเป็นวาระเร่งด่วนของรัฐบาล จนเมื่อวานนี้ นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภาสรรหา ออกมาให้ความเห็นเชิงป้องปรามความเคลื่อนไหวแก้ไขรธน.โดยอ้างว่า ไม่มีปัญหาที่ต้องแก้ไข ข้อเสนอแก้ไขไม่ชัดเจนและส.ว.ต้องดูแลความสงบเรียบร้อยในช่วงเปลี่ยนผ่าน 5 ปี นั้น ล่าสุดทางพรรคการเมืองฝ่ายค้านออกมาวิพากษ์วิจารณ์ความเห็นดังกล่าวว่าหวงอำนาจ กลัวเสียผลประโยชน์ ทั้งที่ไม่ได้ถูกเลือกมาจากประชาชน

“เสธ.แมว” ชี้ แก้ไขรธน.ทุกฝ่ายต้องฟังเสียงประชาชน 

พลโท ภราดร พัฒนถาบุตร ที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า กรณีที่สภาผู้แทนราษฎรจะมีการตั้งคณะกรรมการศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็เป็นเรื่องของในสภา แต่เชื่อว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้จะมาจากความต้องการของพี่น้องประชาชน และภาคประชาสังคมที่จะมีส่วนร่วมกำหนดทิศทางของประเทศไทยผ่านรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

ดังนั้นทุกฝ่ายต้องฟังเสียงประชาชน เพราะประชาชนคือผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากรัฐธรรมนูญฉบับนี้เห็นได้จากการเลือกตั้งที่ผ่านมาที่ประชาชนเลือกพรรคเพื่อไทยมาเป็นอันดับ 1 แต่ด้วยความพิสดารของรัฐธรรมนูญส่งผลให้พรรคการเมืองอันดับ 2 กลับอ้างตนมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลและคณะกรรมการการเลือกตั้งหรือกกต.ก็มาใช้สูตรพิสดารในการจัดสรรตำแหน่งส.ส.บัญชีรายชื่อให้กับพรรคการเมืองที่รัฐบาลกำหนด โดยไม่สนใจว่าประชาชนจะมองว่าอย่างไร อยากเป็นรัฐบาลจนทำลายความสง่างามของรัฐธรรมนูญด้วยองคาพยพขององค์กรที่มาจากอำนาจของคสช.

พลโทภราดร กล่าวด้วยว่า ส่วนกรณีที่นายเสรี ออกมาขัดขวางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็มีเพียงเหตุผลเดียวคือหวงอำนาจ และไม่อยากสูญเสียประโยชน์ที่ได้รับ แม้ที่มาเป็นส.ว.ของนายเสรีก็มีที่มาจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติหรือ คสช. ที่ตั้งเข้ามาเพื่อเป็นนั่งร้านให้กับรัฐบาลสืบทอดอำนาจ

นอกจากนี้ ส.ว.ชุดนี้มีที่มาที่ไปขัดกับรัฐธรรมนูญทั้งคณะ ไม่ว่าจะเป็นที่มาจากคณะกรรมการสรรหาก็มีผลประโยชน์ทับซ้อนขัดรัฐธรรมนูญ ที่สำคัญไม่ได้มาจากความต้องการประชาชนตามที่บรรดาส.ว.ชอบอ้าง ดังนั้นทางที่ดีคือฟังเสียงประชาชนเจ้าของอำนาจที่แท้จริง อย่าหวงอำนาจที่ตัวเองได้มาอย่างไม่ถูกต้องชอบธรรม

“ชำนาญ” ซัด “เสรี” เสพติดอำนาจ ทั้งที่คนส่วนใหญ่เห็น รธน.เป็นปัญหา

ด้านนายชำนาญ จันทร์เรือง รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และสมาชิกแบบบัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า กรณีที่นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา ตั้งข้อสังเกตุ เกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น เรื่องแรกที่ระบุว่า ยังไม่เห็นว่าจะมีการแก้ในประเด็นไหนนั้น คำตอบ ก็ชัดเจนอยู่แล้วคือ นี่คือญัตติที่ขอให้สภาผู้แทนราษฎรมีมติตั้ง คณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นเรื่องของการศึกษา อย่างน้อยที่สุดคือศึกษาวิธีการแก้ไข ส่วนเรื่องเนื้อหานั้นแน่นอนว่ายังไม่ได้มีการพูดถึง ประเด็นต่อมาที่บอกว่า ยังไม่เห็นปัญหาของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ตนไม่แน่ใจว่าคุณเสรีไม่เห็นหรือต้องการเป็นปัญหา ทั้งๆ ที่ทุกคนเห็นปัญหากันหมด ที่ชัดเจนเลยก็คือสูตรคำนวน ส.ส.แบบฉบับพิศดารของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) คุณเสรีมองไม่เห็น หรือจงใจให้เป็นปัญหาต่อไป

“อีกเรื่องหนึ่งซึ่งผมเองรู้สึกงงเป็นอย่างมาก คือที่บอกว่า ส.ว. มีหน้าที่ควบคุมความเรียบร้อยในช่วงเปลี่ยนประเทศ 5 ปี อยากถามว่า คุณเสรีไปเอามาจากไหน ใครมอบหมายให้ ส.ว.ซึ่งไม่ได้มีที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนทำหน้าที่นี้ การแสดงความคิดเห็นทั้งหมดของ ส.ว.ท่านนี้ ผมสงสัยว่าเป็นความเคยตัวจากการสืบทอดอำนาจ เสพสุขมาอย่างยาวนาน โดยไม่เคยรู้จักแบ่งปันเพื่อร่วมชาติ ไม่คิดจะทำให้ประชาชนเพื่อนร่วมชาติได้ประโยชน์จากรัฐธรรมนูญบ้าง อยากบอกว่า อย่าขัดขวางกระบวนการเติบโตของระบอประชาธิปไตย อย่าทำตัวให้ไปที่ไหนมีแต่คนส่ายหน้า เบ้ปากใส่” นายชำนาญ กล่าว