‘บิ๊กป้อม’ ชมกกท. คว้าอันดับ 2 รัฐวิสาหกิจมีคุณธรรม โปร่งใส ประจำปี62

เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม ที่ห้องประชุม 108 อรรถไกวัลวที ชั้น 1 สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย (บอร์ด กกท.) ครั้งที่ 9/2562
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ขอชื่นชมการทำงานของกกท. ที่ได้อันดับ 2 ของรัฐวิสาหกิจในการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานรัฐ ประจำปีงบประมาณ 2562 และขอให้รักษามาตรฐาน พร้อมพัฒนาการกีฬาของไทยให้ได้มาตราฐานระดับสากล รวมถึงให้กกท.บริหารจัดการภายใต้หลักธรรมาภิบาล ยึดคุณธรรมและความโปร่งใส เป็นหลักในการบริหารงาน

ด้านดร.ก้องศักดิ์ ยอดมณี ผู้ว่าการฯกกท. กล่าวถึงผลการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานรัฐ (Integrity & Transparency Assessment : ITA) ประจำปีงบประมาณ 2562 ว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) ได้ดำเนินประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต โดยยกระดับให้เป็น “มาตรการป้องกันการทุจริตเชิงรุก” นั้น ในปี 2562 นี้ การกีฬาแห่งประเทศไทย ได้รับการประเมินจากหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ โดยผลการประเมินการกีฬาแห่งประเทศไทย ได้อันดับที่ 2 ของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ จากจำนวน 53 หน่วยงาน ผลการประเมิน ITA ของการกีฬาแห่งประเทศไทย เท่ากับ 97.62 คะแนน หรือ ระดับ AA และอยู่ในอันดับที่ 6 ของประเทศ จากหน่วยงานราชการและหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ จำนวน 8,058 หน่วยงาน โดยจะเข้ารับรางวัลจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีการมอบรางวัลทั้งสิ้นจำนวน 34 รางวัล ในวันที่ 9 ธันวาคมนี้ นับว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีและน่าภาคภูมิใจของพวกเราชาว กกท. ทุกคนเป็นอย่างยิ่ง และเราจะมุ่งมั่นที่จะรักษาคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของการกีฬาแห่งประเทศไทย ต่อไป

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการ กกท.ได้มีมติเห็นชอบในวาระเพื่อพิจารณารวมทั้งเห็นชอบประกาศกำหนดชนิดกีฬาที่สามารถขอจดทะเบียนจัดตั้งสมาคมกีฬาเพิ่มเติม คือ กีฬาเคอร์ลิง (Curling) และ พาวเวอร์ลิฟติ้ง (Powerlifting) จำนวน 2 ชนิดกีฬา จากเดิม 85 ชนิดกีฬา รวมเป็น 87 ชนิดกีฬา และเห็นชอบต่อสัญญาการเป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก รายการ โมโต จีพี เพิ่มขึ้น 5 ปี (ประจำปี 2564 – 2568) โดยจะนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป