ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 17 - 23 พฤษภาคม 2567 |
---|---|
คอลัมน์ | ต่างประเทศ |
เผยแพร่ |
สถานการณ์การสู้รบในฉนวนกาซา ดูจะยังไม่มีวี่แววของการยุติลงง่ายๆ โดยล่าสุดอิสราเอลเดินหน้าบุกโจมตีเมืองราฟาห์ ตอนใต้ของฉนวนกาซา ที่มีผู้ลี้ภัยการสู้รบชาวปาเลสไตน์พักพิงอยู่กว่า 1 ล้านคน มีการส่งรถถังเข้าไปยึดถนนสายหลัก ในพื้นที่ตะวันออกและตะวันตกของเมืองราฟาห์ ที่ถือเป็นการปิดล้อมพื้นที่ตะวันออกของเมืองราฟาห์
เหตุผลของการมุ่งมั่นบุกเข้ายึดเมืองราฟาห์ คือ อิสราเอลจะไม่สามารถเอาชนะกลุ่มฮามาสได้ หากไม่บุกเข้าไปกำจัดพวกนักรบฮามาสที่อยู่ในเมืองราฟาห์หลายพันคนได้
ความดึงดันที่จะบุกเมืองราฟาห์ของอิสราเอล ท่ามกลางเสียงคัดค้านอย่างหนักจากหน่วยงานด้านมนุษยธรรมต่างๆ รวมทั้งสหรัฐอเมริกา ที่ถือเป็นพันธมิตรหลักของอิสราเอล
ทำให้สหรัฐอเมริกา ตัดสินใจหยุดการส่งมอบระเบิด 2,000 ปอนด์ และระเบิด 500 ปอนด์ ให้แก่อิสราเอลชั่วคราว เนื่องจากเกรงว่าอาจจะถูกนำไปใช้ในเมืองราฟาห์
การระงับดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐอเมริกา ออกมาเตือนอิสราเอลว่า จะหยุดการจัดหาอาวุธให้แก่อิสราเอล หากยังเดินหน้าบุกโจมตีเมืองราฟาห์
“ผมบอกให้ทราบชัดเจนว่า หากพวกเขาเข้าไปในราฟาห์ ผมจะไม่จัดหาอาวุธที่เคยใช้ในอดีตเพื่อให้พวกเขานำไปใช้ในราฟาห์หรือในเมืองอื่นๆ นั่นคือวิธีที่จะจัดการกับปัญหานั้น” ไบเดนกล่าวในการให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นเอ็น ซึ่งถือเป็นท่าทีที่แข็งกร้าวที่สุดของไบเดน นับตั้งแต่อิสราเอลเริ่มปฏิบัติการตอบโต้กลับในฉนวนกาซา
โดยสำนักข่าวเอพีรายงานว่า เป้าหมายในการใช้ระเบิด 2,000 ปอนด์ ของอิสราเอล คือการโจมตีอุโมงค์ใต้ดินของกลุ่มฮามาส ในฉนวนกาซา ซึ่งสหรัฐอเมริกาเป็นห่วงว่าระเบิดดังกล่าวอาจจะทำให้เกิดความสูญเสียมหาศาลในเมืองราฟาห์ ที่มีผู้ลี้ภัยสงครามพักพิงอยู่กว่า 1 ล้านคน หากใช้ระเบิด 2,000 ปอนด์ดังกล่าว
ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ ได้บอกกับคณะกรรมาธิการวุฒิสภาสหรัฐ เกี่ยวกับการระงับการส่งระเบิดให้อิสราเอล เมื่อกลางสัปดาห์ก่อนว่า เมืองที่มีประชากรหนาแน่นอย่างราฟาห์ ควรจะใช้อาวุธที่มีขนาดเล็กกว่า และแม่นยำกว่า อาจจะไม่ต้องถึงกับใช้ระเบิด 2,000 ปอนด์ ที่อาจจะสร้างความเสียหายมหาศาลขึ้นมาได้ พร้อมย้ำว่า สหรัฐต้องการเห็นอิสราเอลมีปฏิบัติการที่แม่นยำมากขึ้น แต่ก็ยังไม่ได้มีการตัดสินใจที่แน่ชัดออกมาว่าจะเป็นอาวุธอะไร
แน่นอนว่าการตัดสินใจดังกล่าวทำให้อิสราเอลผิดหวังต่อการตัดสินใจของพันธมิตรสำคัญ และเชื่อว่าการตัดสินใจนี้เกิดขึ้นเนื่องจากแรงกดดันทางการเมืองที่มีต่อประธานาธิบดีโจ ไบเดน
เอพีรายงานว่า มีรายงานที่รวบรวมโดยหน่วยงานอิสระของกระทรวงต่างประเทศและกระทรวงกลาโหมสหรัฐ เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ระบุว่า แหล่งข่าวอเมริกันได้แจ้งกับหนึ่งในสมาชิกของหน่วยงานอิสระดังกล่าวว่า มีการทิ้งหรือยิงอาวุธยุทโธปกรณ์ 300,000 นัด ในฉนวนกาซา ในช่วง 6 เดือนแรกของสงคราม
รายงานดังกล่าวยังได้อ้างการสืบสวนของสื่อที่น่าเชื่อถือ ระบุว่า ในเดือนแรกของสงครามเพียงเดือนเดียว พบหลุมระเบิดเกิดขึ้นอย่างน้อย 500 หลุมในฉนวนกาซา ที่สอดคล้องกับจำนวนการใช้ระเบิด 2,000 ปอนด์ของอิสราเอล
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านกลาโหมบางคนบอกว่า การระงับการส่งระเบิดให้แก่อิสราเอลของสหรัฐอเมริกา แม้การเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นเป็นไปในเชิงสัญลักษณ์ก็จริง แต่ก็อาจจะส่งสัญญาณว่าจะเกิดปัญหาขึ้นในอนาคตได้ในความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับอิสราเอล
อิตามาร์ ยาอาร์ อดีตรองหัวหน้าสภาความมั่นคงแห่งชาติของอิสราเอล บอกว่า นี่เป็นข้อความทางการทูต ที่ส่งถึงนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลว่า เขาจำเป็นต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของอเมริกามากกว่าที่เขามีในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา อย่างน้อยตอนนี้ก็ยังไม่ส่งผลกระทบอะไรต่อความสามารถของอิสราเอล แต่ก็เป็นการส่งสัญญาณบางอย่าง ว่าให้ “ระวัง” เอาไว้
ไม่ว่าสองประเทศจะมีสัมพันธ์ข้างหน้าดีขึ้นหรือแย่ลงก็ตาม การระงับการส่งระเบิด ไม่ได้ทำให้อิสราเอลยุติการบุกโจมตีราฟาห์แต่อย่างใด และยังคงเดินหน้าบุกอย่างต่อเนื่องต่อไป
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022