วันที่ 16 ตุลาคม 2562 นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่ และอดีตนักวิชาการด้านวิศวกรรมคมนาคมจากสถาบันเทคโนโลยีเอเชีย ได้ให้ความเห็นกับแผนแม่บทด้านคมนาคม ที่จะถูกบรรจุลงในร่างงบประมาณ ปี 2563  ซึ่งนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม เคยได้กล่าวชี้แจงต่อที่ประชุมรัฐสภาโดยระบุมีการศึกษาข้อมูลและทำแผนของกระทรวงคมนาคมทั้งหมดของประเทศไทยซึ่งจะเป็นยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี โดยจะเสร็จสิ้นไปในปี 2579 ว่า ไม่เห็นด้วยกับแผนแม่บทยุทธศาสตร์ 20 ปี เพราะสิ่งที่ประเทศไทยต้องการจริงๆ สำหรับด้านคมนาคมนั้นคือเส้นเลือดฝอย คือระบบรถเมล์ ต้องมองปัญหาแบบ Door to Door ดังนั้นจึงเป็นความจำเป็นอย่างมากที่จะต้องปรับแผนแม่บทการคมนาคม ถอดโครงการที่ซ้ำซ้อนออกแล้วให้ความสำคัญกับลำดับในการพัฒนา นอกจากนี้ยังต้องดำเนินการพัฒนาเมืองไปด้วย

นอกจากนี้ นายสุรเชษฐ์เสนอว่า เรื่องนี้พิสูจน์ไม่ยาก แค่จัดเวทีดีเบตแบบโต้วาทีไปเลย ไม่ใช่ต่างคนต่างพูด โต้รายประเด็นไป ถกกันเลยว่าแผนงานปัจจุบันนั้นใหญ่เกินความจำเป็นและไม่คุ้มค่าอย่างที่ตัวเองเคยพูดไว้หรือไม่

“ต้องพูดเลยว่า ตัวรัฐมนตรี (ศักดิ์สยาม) ไม่ได้เป็นคนวางแผน แต่ควรเข้าใจก่อนตัดสินใจอนุมัติโครงการ เพราะเป็นการใช้เงินภาษีจำนวนมหาศาล จะอนุมัติมั่วซั่วเพียงเพราะผ่านขั้นตอนถูกต้องตามกฎหมายแล้วไม่ได้ แต่ต้องเข้าใจและยืนยันได้ว่าคุ้มค่ากับภาษีของพี่น้องประชาชน ถึงจะสมศักดิ์ศรีในการเป็นรัฐมนตรี หากรัฐมนตรีมั่นใจว่าแผนงานปัจจุบันคุ้มค่าและจะเดินตาม ผมเห็นว่า ควรจะกล้าออกมาดีเบต จะเอาข้าราชการเก่งมาด้วยก็ไม่ว่า ถกเถียงกันด้วยเหตุและผล แต่ห้ามทุบโต๊ะหรือเรียกผมไปปรับทัศนคติ” นายสุรเชษฐ์ กล่าวทิ้งท้าย