เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษารความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวกรณีที่ถูกฝ่ายการเมืองโจมตีว่าสถานะการเงินการคลังไม่มั่นคงอยู่ในขั้นถังแตก ภายหลังการขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบินภายในประเทศ ว่า มันไม่เป็นอย่างไรหรอก รอฟังกระทรวงการคลังชี้แจง เรื่องนี้ต้องดูว่ากฎหมายทำได้หรือไม่ สื่อและประชาชนอย่าตกใจ อยู่แบบเดิมไม่ต้องใช้เงินอะไรเลย ใช้เพียงเงินอุดหนุนไปอย่างเดียว ช่วยเหลือเกษตรกรและผู้มีรายได้น้อยไปแบบนี้ แน่นอนเงินเหลือเยอะ ถ้าจะอยู่อย่างนี้ต่อไป อีก 5-10 ข้างหน้าก็อย่ามาโทษตน

“วันนี้เขาเอาเงินไปลงทุนถูกต้องและทำได้หรือไม่ กฎการลงทุนเป็นอย่างไร หนี้สาธารณะเกินหรือเปล่า ดูอย่างนี้และดูว่าสิ่งที่เขาทำทุจริตหรือเปล่า สิ่งที่ทำเกิดหรือไม่ ไปดูตรงปลายทางด้วย ไม่ใช่วันนี้แตะอะไรไม่ได้สักอย่าง แต่ต้องการ แล้วจะเอาอะไรจากผม ทุกคนไม่รู้เหรอว่าปัญหาประเทศอยู่ตรงไหน หรือไม่รู้ต้องมาถามผมทุกเรื่อง ปัญหานี้หรือเปล่าที่รัฐบาลแก้ ท่านไม่เคยช่วยผมคิดเลยเหรอ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอย่างมีอารมณ์หงุดหงิด โดยผู้สื่อข่าวพยายามบอกให้นายกฯ ใจเย็นๆ ทำให้นายกฯ ตอบกลับว่า “ใจเย็นอยู่แล้ว”

ผู้สื่อข่าวถามว่า สถานะการเงินของประเทศไม่ได้เป็นตามที่ฝ่ายการเมืองออกให้ข้อมูลใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เป็นไม่เป็นไม่รู้ กระทรวงการคลังจะชี้แจง หน้าที่ของตนคือคิดและทำงาน เพื่อขับเคลื่อนประเทศ หน้าที่ฝ่ายกฎหมาย กระทรวงการคลัง ฝ่ายควบคุมหนี้สาธารณะ เขาดูอยู่ว่าที่สั่งออกไปหรือใช้ไปก่อนที่จะนำเข้ามาอนุมัติ เขาต้องผ่านการกลั่นกรองมาแล้ว มันอาจจะมีคนหวังดีหรือไม่หวังดีไม่รู้ ไปรวมเอาทั้งหมดมา ถ้าลองไปรวมที่ใช้ที่ผ่านมาทั้งหมดเกิดประโยชน์อะไรบ้าง ก่อนหน้านั้นมีโครงการอะไรบ้าง และในวันนี้ใช้เงินไปในโครงการอะไร เอาโครงการมาเปรียบเทียบกัน จากนั้นมาไล่ดูว่าผิดกฎระเบียบการเงินการคลังในการใช้เงินงบประมาณหรือไม่ วันนี้ถ้ารัฐบาลปฏิรูปแต่ทุกคนไม่ปฏิรูปมันก็จะเป็นแบบเดิม ตนไม่เคยดูถูกความคิดใคร แต่อยากให้คิดแบบที่ตนคิด แต่ก็มาคอยดึงขากันอยู่ ผิดก็ว่ามา ถ้าไม่ใช้ก็ไม่ใช้

เมื่อถามว่า จะเรียกความเชื่อมั่นอย่างไร เพราะมีการตีความว่ารัฐบาลถังแตก พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยเสียงดุดันว่า “ใครตี และคุณเรียกร้องอะไรบ้างหรือเปล่า ประชาชนเรียกร้องอะไรในตอนนี้ น้ำท่วมช่วยเหลือเกษตรกร ช่วยเหลือชาวนา ช่วยเหลือทุกอย่าง ขอหมด แล้วการพัฒนาการลงทุนจะเอาเงินที่ไหนลงไป หรือให้แค่นั้นพอจบ การเงินการคลังเติมล้น จะเอาอย่างไรเลือกมา ปัญหาอยู่ที่ว่าท่านเลือกอย่างไร ผมก็จะทำให้แบบนั้น ถ้าจะเอาแบบนั้นก็จบหยุดไม่ต้องปฏิรูป ไม่ต้องทำอะไรทั้งสิ้น อย่ามาเรียกร้อง”

“เมื่อเขาทำแล้วก็ต้องไปดูว่าเขาทำถูกหรือผิด ใครเป็นคนเอามาพูด พรรคการเมืองไหน นักการเมืองฝ่ายไหน ปัดโธ่ ชอบไปเป็นกระบอกเสียงให้คนพวกนี้มาพูด ถ้ามันผิดเขาเล่นงานผมเองแหละ ไม่ต้องมารุมผมหรอก แล้วถ้ามันผิดผมอนุมัติไม่ได้อยู่แล้ว เพราะทุกเรื่องที่เข้าครม.ไม่ใช่ผมสั่งให้ทำ เขาไปทำตามนโยบายและแผนงานของเขา และก่อนจะนำมาเสนอครม. เขาสอบถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาแล้วว่าถูกหรือไม่ ผมก็ถามว่าเม็ดเงินมันมีอยู่หรือเปล่า มันพอหรือไม่ เอาเงินที่ไหนมา เขาก็ตอบว่ามันได้หมด แล้วจะให้ผมทำไง ไม่ใช้หรือใช้ ผมไม่ได้คิดเงินในกระเป๋าผมนี่หน่า มันคิดด้วยระบบ คิดด้วยกฎหมาย เข้าใจกันหรือยัง” นายกฯ กล่าว

และว่า “เดี๋ยวไปฟังกระทรวงการคลังเขาชี้แจง พอกระทรวงการคลังชี้แจงก็ไปฟังอีกทางมาอีก ไปตีกลับมาอีก ก็อยู่กันอย่างนี้ ไม่ต้องไปไหน พายเรืออยู่ในอ่าง ไม่ต้องมาเตือนผมอารมณ์ดีไม่ดี เรื่องของผม ถ้าเป็นคุณแล้วลูกคุณทำเรื่องนี้กับคุณทุกวัน คุณจะอารมณ์ดีกับลูกคุณไหม ถ้าคุณทำได้ผมจะทำ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว