“ธรรมนัส”เคลียร์เองพรรคเล็ก เตรียมคลอดตำแหน่งสัปดาห์หน้า เผยเคารพการตัดสินใจของ “มงคลกิตติ์”

“ธรรมนัส” เคลียร์เองปมพรรคเล็กแยกตัว วอน จากนี้เลิกถามเรื่องพรรคร่วมอีก เตรียมคลอดตำแหน่งสัปดาห์หน้า เคารพการตัดสินใจของ “มงคลกิตติ์” ตั้งตัวเป็นฝ่ายค้านอิสระ ด้าน“หมอระวี” เชื่อ แก้วแตกใช้กาวตราช้างติด อยู่ได้ถึง 4 ปี
เมื่อเวลา 14.50 น. วันที่ 13 ส.ค. ที่อาคารทีพีแอนด์ที ถ.วิภาวดีรังสิต 19 กลุ่ม 9 พรรคการเมืองขนาดเล็ก นำโดย นายสัมพันธ์ เลิศนุวัฒน์ หัวหน้าพรรคพลเมืองไทย นพ.ระวี มาดฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ นายพิเชษฐ์ สถิรชวาล หัวหน้าพรรคประชาธรรมไทย พร้อมหัวหน้าพรรคอื่นอีก 6 คน และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ พรรคพลังประชารัฐ

ร่วมกันแถลงข่าวจุดยืนกลุ่ม 9 พรรคเล็กต่อรัฐบาล หลังการถอนตัวของนายมงคลกิติต์ สุขสินธรานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ไปเป็นฝ่ายค้านอิสระ โดยนายสัมพันธ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมากลุ่มพรรคเล็กได้ประสานงานผ่าน ร.อ.ธรรมนัสมาด้วยดีโดยตลอด แต่ที่มีกระแสข่าวออกไป เป็นเพราะมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนนิดหน่อย

ต้องชี้แจงว่าในฐานะเป็นนักการเมืองมานาน ทุกคนอยากมีหน้าที่ในการทำงาน แต่ไม่ได้ต้องการตำแหน่ง ที่ผ่านมาเราได้ส่งประวัติหัวหน้าพรรคไปให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชนา นายกฯ ผ่านร.อ.ธรรมนัส ซึ่งเราไม่มีปัญหาอะไรหากไม่มีตำแหน่งว่าง

“แม้ตอนนี้จะเหลือ 9 พรรคครึ่ง เพราะยังคงมีการประสานงานกับนายมงคลกิตต์อยู่ แต่ยืนยันว่าเรายังสนับสนุนรัฐบาลเหมือนเดิมและสนับสนุนตลอดไป” นายสัมพันธ์ ระบุ

ด้านนพ.ระวี กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นตนเคยชี้แจงไปแล้ว ร.อ.ธรรมนัสก็เคยพูดว่าแม้แก้วจะร้าวก็หลอมใหม่ได้ หรือแก้วแตกก็สามารถติดกาวตราช้างให้อยู่ถึง 4 ปีได้ แม้ตอนนี้เราจะมาแถลง 9 พรรค โดยนายมงคลกิตติ์ อาจจะเลือกไปแถลงในแนวทางแตกต่าง แต่มิตรภาพในสภาของเรายังอยู่ เรายังเป็นพี่ เป็นน้องและมิตรสหายกัน

ส่วนการนัดรับประทานอาหารร่วมกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา วันที่ 15 ส.ค.นั้น ยกเลิกไปแล้วเพราะเราแก้ปัญหาจบแล้ว “สำหรับกลุ่มพรรคเล็กนั้น ตำแหน่งรัฐมนตรี แม้ว่าเราจะต่อรองจริงๆ เราก็ต่อรองได้ แต่เพื่อบ้านเมือง เราก็ทำให้เห็นมาแล้วว่าเราสามารถก้าวข้ามได้” นพ.ระวี กล่าว

ส่วนนายพิเชษฐ์ กล่าวว่า การเคลื่อนไหวก่อนหน้านี้ที่ทั้ง 5 พรรคเป็นเพียงการส่งสัญญาณถึงรัฐบาล เพื่อขอความชัดเจน และคำตอบแก่ผู้สนับสนุนแต่ละพรรค ซึ่งคำตอบที่ออกมาก็เป็นสัญญาณที่ดี อย่างตำแหน่งที่ตนขอคือประธานผู้แทนหอการค้า แต่เป็นไม่ได้

เนื่องจากเงื่อนไขว่า หากจะไปดำรงตำแหน่งดังกล่าว ต้องลาออกจากส.ส. แต่ตนคงลาออกไม่ได้เนื่องจากในพรรคยังมีปัญหาเรื่องประสานงานกับรัฐบาล ซึ่งตนก็ไม่ได้ผิดหวัง อย่างที่ร.อ.ธรรมนัส ชี้แจงว่ากติการอบนี้ต้องการแยกฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติออกจากกัน
“ในวันนี้ข้อสรุปชัดเจนแล้ว หากผมไม่สามารถดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้ก็จะส่งตัวแทนไป ขอย้ำอีกครั้งว่าที่เคลื่อนไหวนั้น เพื่อส่งสัญญาณขอคำตอบ และยืนยันว่าผมสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐบาลนี้”

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า สิ่งที่ยืนยันมาตลอดคือ ทั้ง 9 พรรคที่มาร่วมแถลงข่าววันนี้ ยังเหนียวแน่น และสนับสนุนรัฐบาลเหมือนเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ในเรื่องตำแหน่งทางการเมืองนั้น ทั้ง 10 พรรคได้เสนอคุณสมบัติแต่ละท่านไปแล้ว ซึ่งส.ส.ทั้ง 10 ท่านตั้งใจจะเข้าไปมีส่วนร่วมบริหารบ้านเมือง แต่เมื่อรัฐธรรมนูญเขียนว่าส.ส.ไม่สามารถดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้ จึงส่งตัวแทนเข้ามา และคาดว่ารายชื่อจะนำเข้าครม.ในวันที่ 20 ส.ค. และเรื่องนี้ไม่ใช่การต่อรองทางการเมือง

“สิ่งที่ผมแถลงไปในเรื่องของน้องเต้ ก็ต้องปล่อยให้น้องไปทำงานเพื่อรักษาผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชน เพราะวันนี้ปัญหาบ้านเมืองและปัญหาพี่น้องในระดับรากหญ้าเป็นปัญหาใหญ่ รัฐบาลให้ความสำคัญ สรุปว่าทั้ง 9 พรรคยังยืนยันเหมือนเดิมคือจะร่วมพัฒนาบ้านเมืองไปด้วยกันกับรัฐบาล”ร.อ.ธรรมนัส กล่าว

เมื่อถามว่าได้หารือกับนายมงคลกิตต์ รวมถึงเหตุผลเรื่องถวายสัตย์หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เราได้พูดคุยกับนายมงคลกิตติ์มาตลอด และเคารพในการตัดสินใจ เพราะเป็นส.ส.ที่มีอุดมการณ์ของตัวเอง หากเราติดตามการทำงานของเขาจะเห็นว่าเจ้าตัวลงพื้นที่ทุกจังหวัด อย่างไรก็ตามในเรื่องถวายสัตย์เป็นกลไกที่อยู่ในศาลรัฐธรรมนูญ เราไม่สามารถพูดถึงประเด็นนี้ได้

ขณะที่นายสัมพันธ์ กล่าวว่า เรื่องถวายสัตย์เป็นเรื่องที่ใหญ่เกินกว่าที่พรรคอย่างเราที่มีเพียง 1 เสียงจะออกความเห็น แต่เชื่อว่านายกฯมีทางออกเรื่องนี้อยู่แล้ว เชื่อว่านายกฯไม่ได้กังวล ตนไม่ได้เชียร์นายกฯ แต่สังเกตดูจากการออกทีวีหรือการให้สัมภาษณ์สื่อนั้น ดูดีกว่าเดิม

เมื่อถามว่านายกฯ ฝากอะไรมาถึงหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ขอร้องว่าหลังจากวันนี้เราอย่ามาคุยกันเรื่องพรรคร่วมรัฐบาล แต่ขอให้คุยกันเรื่องปากท้องของพี่น้องประชาชนดีกว่า สำหรับตำแหน่งต่างๆนั้น ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนเริ่มการแถลงข่าว เจ้าหน้าที่พรรคประชานิยม ได้แกะป้ายพรรคไทยศรีวิไลย์ที่ติดอยู่หลังเวทีแถลงข่าวออก เหลือเพียงป้ายของ 9 พรรคเท่านั้น