‘ทวี’ ชี้ปัญหาไฟใต้ ต้องชูยุติธรรมนำการเมือง-ทหาร 5ปีที่ผ่านมามีแต่คิดรวบอำนาจ

เมื่อวันที่ 7 ส.ค. พรรคสามัญชน จัดเวทีเสวนา “การแก้ไขรัฐธรรมนูญกับกระบวนการการมีส่วนร่วมนอกสภา” ที่ห้องประชุมมูลนิธิ 14 ตุลา ถ.ราชดำเนิน กรุงเทพฯ โดยมีผู้ร่วมเสวนา 6 คน ประกอบด้วย นุชนารถ แท่นทอง เครือข่ายสลัมสี่ภาค, จอน อึ๊งภากรณ์ ผอ.โครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw), ผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดี ม.ธรรมศาสตร์, เลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์ หัวหน้าพรรคสามัญชน และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ และประธานคณะทำงานพรรคร่วมฝ่ายค้านเพื่อการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน โดยมีฐปนีย์ เอียดศรีไชย เป็นผู้ดำเนินรายการ

พ.ต.อ.ทวี ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนก่อนขึ้นเวทีเสวนาถึงกรณีที่มีผู้ไม่หวังดีโพสต์ใส่ร้ายพรรคประชาชาติ ว่า ส.ส.จังหวัดนราธิวาส ได้ดำเนินการแจ้งความแล้ว และเมื่อวานนี้ผู้ที่โพสต์ได้เดินทางมาขอโทษที่สำนักงานพรรค พร้อมกับนำหลักฐานมาแสดงว่าต้องไปรักษาอาการป่วยทางจิตที่โรงพยาบาล ในทางกฎหมายหากผู้ที่มีปัญหาทางสุขภาพจิตไม่ต้องรับโทษอยู่แล้ว ซึ่งท่านวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคได้นำประเด็นนี้เข้าที่ประชุมคณะทำงาน และพรรคเป็นองค์กรสาธารณะก็ต้องทำความเข้าใจ ส่วนด้านคดี ส.ส.ที่ไปแจ้งความคงมีการพิจารณาต่อไป

ผู้สื่อข่าวได้ถามถึงเหตุระเบิดป่วนกรุงเทพว่ามีความเชื่อมโยงกับกลุ่มก่อเหตุในจังหวัดชายแดนภาคใต้หรือกลุ่มการเมืองหรือไม่อย่างไร พ.ต.อ.ทวี ตอบว่า อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนสอบสวนก่อน เพราะโดยหลักแล้วการจะได้ข้อเท็จจริงนั้นต้องมาจากพยานหลักฐาน หากไม่มีพยานหลักฐานไม่ถือว่าเป็นข้อเท็จจริง ถือเป็นการวิเคราะห์ หากวิเคราะห์ไม่เป็นธรรมจะก่อให้เกิดความเสียหาย

“ในพรรคประชาชาติไม่ได้มีแค่มุสลิมอย่างเดียว เช่น ผมเป็นพุทธ มีอดีตผู้ว่าราชการจังหวัด อดีตผู้บังคับบัญชาการ ศชต.ถึง 2 คน เราเห็นว่าปัญหาชายแดนใต้ต้องเป็นวาระแห่งชาติที่จะต้องนำความสงบสุขมาสู่ภาคใต้ให้ได้ แนวทางการแก้ปัญหาที่ผ่านมาเป็นการผูกขาดอยู่ที่ฝ่ายความมั่นคงเพียงฝ่ายเดียว วันนี้เราต้องเปิดพื้นที่ให้ประชาชนทุกคนได้เข้ามาร่วมแก้ปัญหาเพราะฝ่ายความมั่นคงส่วนใหญ่อยู่กรุงเทพ ปัญหาในพื้นที่เราต้องให้คนในพื้นที่เป็นผู้แก้ปัญหาเอง”

พ.ต.อ.ทวี กล่าวต่อว่า ที่สำคัญอย่างยิ่งในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้จะต่างกับพื้นที่อื่นๆ คือมีพี่น้องไทยพุทธน้อยกว่าพี่น้องมุสลิม จะต้องให้ความเท่าเทียมกับทั้งสองศาสนิกอย่างเท่าเทียมกัน ไม่ใช่ดูที่จำนวนคน งบประมาณของรัฐหรือการแก้ปัญหาในอดีตเราพยายามที่จะไม่ให้ฝ่ายความมั่นคงนำ จะมีงานของ ศอ.บต.และงานของ กอ.รมน. แต่ในรอบ 5 ปีที่ผ่านมารัฐบาลมีแนวคิดว่าต้องรวบอำนาจมาอยู่ที่ฝ่ายความมั่นคง ก็อยากจะให้ทบทวน เรื่องของจังหวัดชายแดนภาคใต้อาจจะพูดในทางปรัชญาว่า “การเมืองนำการทหาร” แต่วันนี้ต้องดูอีกมุมหนึ่งคือ “ความยุติธรรมนำการเมืองและการทหาร”

จากนั้น พ.ต.อ.ทวี ได้ขึ้นกล่าวบนเวทีเสวนาว่า ระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยเป็นสังคมที่มีความเหลื่อมล้ำน้อยกว่าสังคมเผด็จการ ที่ผ่านมาประเทศไทยเรามีรัฐธรรมนูญ 20 ฉบับ แต่มีเพียง 1 ฉบับเท่านั้นที่เป็นฉบับของประชาชนและมีความเป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง ประเทศไทยมีรากเหง้ามาจากระบบอุปถัมภ์ ที่ผู้น้อยต้องตอบแทนผู้มีอำนาจ ผมมองว่ารัฐบาลปัจจุบันคือระบบอุปถัมภ์ และรัฐธรรมนูญฉบับปี 60 เป็นรัฐธรรมนูญที่ร่างขึ้นเพื่อให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี

“ผมมีประสบการณ์ทำงานในภาคใต้ ตอนที่มีการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ชื่นชมประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญมากกว่าร้อยละ 80 การที่จะทำให้บ้านเมืองมีความสุข ขั้นแรกจะทำอย่างไรให้ประชาชนมีสุขอยู่ดีกินดี สองคือกฎหมายและรัฐธรรมนูญที่ปกครองประเทศต้องเป็นรัฐธรรมนูญที่ดี ประชาชนต้องมีสิทธิดำรงชีวิตได้อย่างมนุษย์ รัฐธรรมนูญต้องให้ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพที่จะมีความคิด”

“เราจะเห็นว่าวันนี้ประชาชนไม่มีมีสิทธิมีความคิด รัฐธรรมนูญต้องเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ พหุวัฒนธรรมต้องมีคุณค่า ต้องให้ความเสมอภาคแก่ทุกชาติพันธุ์ และสำคัญที่สุดรัฐธรรมนูญต้องมีความยุติธรรม วันนี้จะเห็นว่าประชาชนไม่มีโครงสร้างอำนาจที่จะดูแลทรัพยากรของตนเองเลย เป็นเสมือนขอทานที่ต้องแบมือรับจากรัฐบาล รัฐธรรมนูญฉบับนี้จึงต้องได้รับการแก้ไข” พ.ต.อ.ทวี ทิ้งท้าย