‘สมศักดิ์’ มั่นใจ รัฐบาลประยุทธ์ 2 อยู่ครบวาระ นายกฯรู้นโยบายที่สุด

เมื่อวานนี้ (27 กรกฎาคม 2562) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม และส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวถึงภาพรวมการแถลงนโยบายของรัฐบาลว่า ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงจากการนำเสนอจากการแถลงนโยบาย ต่างจากรัฐบาลก่อนๆ ตนเคยเป็นรัฐมนตรีมา 13 ครั้ง ตามปกตินายกรัฐมนตรี จะอ่านเอกสารที่เตรียมมา มีการซักถามกันบ้างเล็กน้อย โดยมากนายกฯ จะไม่ค่อยอยู่ในห้องประชุม

แต่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ อยู่รับฟังการอภิปรายตลอด อาจมีภารกิจรับแขกบ้าง และอยู่ตอบข้อซักถามคำถามจนรัฐมนตรีบางกระทรวงไม่ต้องตอบ แสดงให้เห็นว่านโยบายที่รัฐบาลเขียนมา คนที่เข้าใจมากที่สุดคือนายกฯ ดังนั้น การติดตามผลงานของรัฐบาลน่าจะออกมาได้ตามแผนที่เขียนเอาไว้ และเมื่อผลงานรัฐบาลออกมาดีจะเป็นเกราะที่คุ้มครองรัฐบาลให้อยู่ได้นาน และอาจจะครบวาระ ต้องติดตามว่าจะเป็นอย่างที่ตนคิดหรือไม่

นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า หากประชาชนฟังการแถลงนโยบาย จะเห็นนายกรัฐมนตรีอยู่ในห้องประชุมตลอดเวลา ท่านเป็นคนตรงไปตรงมา บางครั้งไม่เครียด หรืออาจดูเหมือนหนักแต่ไม่หนัก หากพูดหรือแสดงอะไรผิดก็ขอโทษทันที ดังนั้นอย่ามองเพียงการแสดงออก ยืนยันว่านายกฯ และรัฐมนตรีทุกคน มีความตั้งใจทำงาน เพื่อแก้ปัญหาให้ประเทศชาติและประชาชน

ผู้สื่อข่าวถามว่า จากการแถลงนโยบาย ฝ่ายค้านได้แสดงความเป็นห่วงเรื่องใดบ้าง เช่น เรื่องยุติธรรม หรือยาเสพติด นายสมศักดิ์ กล่าวว่า การปราบปรามยาเสพติด ถือเป็นหนึ่งที่ฝ่ายค้านแสดงความเป็นห่วงและได้สะท้อนในเวทีรัฐสภา แต่ในเรื่องนี้อยู่ในนโยบายหลักของรัฐบาล เป็นเรื่องที่ตนให้ความสำคัญมาก และในยุคของตนเป็นรมว.ยุติธรรม จะทำให้ดีที่สุด

ส่วนที่นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคราม พรรคเพื่อไทย อภิปรายในเรื่องยาเสพติดว่าในพื้นที่อีสานมีปริมาณยาเสพติดจำนวนมาก มีคนติดยาเยอะ ก็ชี้แจงว่า จากรายงานจาก ป.ป.ส.พบว่าข้อมูลออกมาตรงข้าม เพราะมีการทำโมเดลป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่อีสานมาแล้ว 2 ช่วง คือ 5 เดือนแรก ที่เข้าไปทำโมเดลนี้ ยังมีตัวเลขที่สูง แต่ในทำช่วงที่ 2 ใช้เวลา 9 เดือน พบว่าปัญหาลดลงเกือบเท่าตัว แสดงว่าโมเดลที่ใช้ทดลองในอีสานน่าจะได้ผลคิดว่าเราน่าจะค้นพบวิธีการ ที่ป.ป.ส.จะนำมาประยุกต์ใช้ได้ทั่วประเทศ หากนำข้อมูลมาทำจริงจัง น่าจะมีความหวังในการปราบยาเสพติดได้

“การทำงานของ ป.ป.ส.พัฒนาไปมาก มีการจับการขนส่งยาเสพติด ทั้งการสั่งทางออนไลน์ การขนส่งโดยไปรษณีย์ได้เป็นจำนวนมาก และหากเราร่วมมือกันเชื่อว่าจะปราบยาเสพติดได้ดีขึ้นอีก ทั้งนี้ประเทศไทยมี 80,000 หมู่บ้าน จุดสุ่มเสี่ยงและต้องระวังมี 24,000 หมู่บ้าน แต่มีหมู่บ้านที่มีความเสี่ยงอยู่ 2,000 หมู่บ้านซึ่งเราจะเดินหน้าปราบปรามต่อไป และหลังแถลงนโยบายเสร็จแล้ว ผมจะลงพื้นที่ในสัปดาห์หน้า เพื่อมอบนโยบายให้กับกรมต่างๆ ในสังกัดกระทรวงยุติธรรม เพื่อจะได้ลงมือปฏิบัติให้สำเร็จโดยเร็ว” นายสมศักดิ์ กล่าว