วันที่ 19 กรกฎาคม 2562 สำนักข่าว บีบีซี รายงานว่า ศาลเมืองซาเล ใกล้กรุงราบัต เมืองหลวงของ โมร็อกโก พิพากษาประหารชีวิตชายผู้ต้องสงสัย 3 คนที่ร่วมกันก่อเหตุฆาตกรรมช็อกโลก ฆ่าตัดศีรษะ นักท่องเที่ยวสาว 2 ราย จาก นอร์เวย์ และ เดนมาร์ก เมื่อเดือนธ.ค.2561 ถือเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 26 ปี นับตั้งแต่ปี 2536 ที่ศาลโมร็อกโกตัดสินโทษประหารชีวิต

ผู้พิพากษาศาลแถลงคำตัดสินให้ประหารชีวิต นายอับเดสซามัด เอจจูด์ วัย 25 ปี นายยูเนส อูเอซิยัดวัย 27 ปี และ นายราชิด อะฟัตตี วัย 33 ปี ตามความผิดร่วมกันฆ่าตัดศีรษะ น.ส.ลุยซา เจสเปอร์เซ่นชาวเดนมาร์ก วัย 24 ปี และ น.ส.มาเรน อูแลนด์ ชาวนอร์เวย์ วัย 28 ปี ขณะนอนพักแรมในเต็นท์ซึ่งตั้งอยู่ริมทางที่มุ่งหน้าขึ้นสู่เทือกเขาแอตลาส เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.2561

โดยนายเอจจูด์และนายอูเอซิยัดเป็นผู้ลงมือฆ่าตัดศีรษะหญิงสาว ส่วนนายอะฟัตตีเป็นคนถ่ายคลิปวิดีโอสะเทือนขวัญด้วยโทรศัพท์มือถือ

รายงานระบุอีกว่า การไต่สวนคดีดังกล่าวใช้เวลานาน 11 สัปดาห์ นายเอจจูด์ พ่อค้าขายของข้างถนน ให้การรับสารภาพเมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา ว่า “ผมตัดหัวหนึ่งในหญิงสาวพวกนั้น ผมเสียใจ”

ขณะที่สื่อฝรั่งเศสรายงานว่านายเอจจูด์เคยต้องโทษจำคุกมาแลเวจากคดีสนับสนุนและเข้าร่วม กองกำลังรัฐอิสลาม (ไอเอส) ในซีเรีย ก่อนได้รับการปล่อยตัวเมื่อปี 2558 แต่เห็นได้ชัดว่านายเอจจูด์ยังมีแนวคิดสุดโต่ง หลังโพสต์คลิปของตนและพวกกล่าวคำสวามิภักดิ์ต่อนายอาบู บักร์ อัล-แบกแดดี ผู้นำกองกำลังไอเอส ไม่นานก่อนโพสต์คลิปฆ่าตัดศีรษะสองสาวนักท่องเที่ยว

นอกจากนี้ ศาลยังพิพากษาโทษจำคุกตลอดชีวิต นายอับเดอร์ราฮิม กายาลี ช่างประปาวัย 33 ปี ซึ่งรู้เห็นว่ากลุ่มของนายเอจจูห์จะก่อเหตุ แต่ลงเขามาก่อน และไม่ได้ร่วมการฆาตกรรม ขณะเดียวกันอัยการเรียกร้องให้จำคุก 20 ปี นายเควิน โซลเลอร์ กูเยร์วอส ชายชาวสวิตเซอร์แลนด์-สเปน ซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ปลุกระดมแนวคิดสุดโต่ง และสอนกลุ่มผู้ต้องสงสัยให้ใช้อาวุธ