มั่นใจลงทุนปีนี้แตะ 4.3 แสนล้าน | กสทช.ควักคืนแบงก์การันตี 22 ช่อง | เอกชนเฮโลเปิดคอนโดฯ ใหม่

แฟ้มข่าว

มั่นใจลงทุนปีนี้แตะ 4.3 แสนล้าน

นายทองชัย ชวลิตพิเชฐ อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยถึงแนวโน้มการลงทุนปี 2562 ว่า คาดการณ์มูลค่าการลงทุนทั้งการตั้งโรงงานอุตสาหกรรมใหม่และการขยายกิจการโรงงานอุตสาหกรรมปีนี้จะอยู่ที่ประมาณ 430,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2561 ซึ่งมีมูลค่ารวมอยู่ที่ 360,000 ล้านบาท คิดเป็น 20% เนื่องจากยอดการตั้งใหม่และขอขยายกิจการในครึ่งแรกของปีนี้ (มกราคม-มิถุนายน) มีมูลค่าลงทุนอยู่ที่ 195,688.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.85% แม้จำนวนโรงงานจะอยู่ที่ 2,064 โรงงาน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 18.06% และมีการจ้างงาน 92,262 คน ลดลง 5.45%

“แนวโน้มครึ่งหลังของปีคาดว่าการลงทุนจะคึกคักมากกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากได้อานิสงส์จากสถานการณ์ทางการเมืองภายหลังเลือกตั้ง การจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ที่มีความชัดเจนมากขึ้นทำให้นักลงทุนเกิดความเชื่อมั่นที่จะเข้ามาลงทุน”

เอกชนเฮโลเปิดคอนโดฯ ใหม่

นายภัทรชัย ทวีวงศ์ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัท คอลลิเออร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีแรก 2562 มีคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ประมาณ 45 โครงการ 18,075 ยูนิต มูลค่าการลงทุนรวมประมาณ 120,302 ล้านบาท น้อยลงกว่าในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้าประมาณ 4,486 ยูนิต หรือคิดเป็น 19.9% ซึ่งจากข้อมูลพบว่า สำหรับในช่วงไตรมาสที่ 1 ปี พ.ศ.2562 ที่ผ่านมานั้น ผู้ประกอบการเน้นการระบายสต๊อกยูนิตคงค้างที่ก่อสร้างแล้วเสร็จเพื่อให้ลูกค้าสามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้ก่อนที่มาตรการแอลทีวีของทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะประกาศใช้ จึงไม่ค่อยเปิดตัวโครงการใหม่มากนัก และสำหรับในช่วงไตรมาสที่ 2 ที่ผ่านมา ในช่วง 2 เดือนแรกผู้ประกอบการก็ยังคงไม่เปิดตัวโครงการใหม่ เนื่องจากส่วนใหญ่รอเปิดตัวโครงการหลังจากการเลือกตั้งครั้งใหม่เสร็จสิ้น เพื่อรอความชัดเจนสำหรับรัฐบาลใหม่ที่จะเข้า และเริ่มทยอยเปิดตัวโครงการใหม่กันเป็นจำนวนมากในช่วงเดือนมิถุนายนสูงถึง 5,100 ยูนิต จากจำนวนเปิดขายใหม่ในช่วงไตรมาส 2 ที่ประมาณ 9,632 ยูนิต คิดเป็น 52.94%

“แม้ปัจจัยลบจะรุมล้อมมากมาย แต่ผู้ประกอบการจำเป็นที่จะต้องเปิดตัวโครงการใหม่ เนื่องจากหากชะลอไปกระจุกตัวอยู่ในช่วงครึ่งปีหลังอาจจะเป็นปัญหาสำหรับผู้ประกอบการต่อไป นอกจากนี้ ยังพบว่ากำลังซื้อต่างชาติโดยเฉพาะนักลงทุนจีนก็ยังคงมีความต้องการซื้อคอนโดมิเนียมในเมืองไทยเป็นจำนวนมาก แต่ขณะนี้เริ่มมองเห็นกำลังซื้อในส่วนของต่างชาติเริ่มมีแนวโน้มลดลง โดยนักลงทุนเหล่านี้จะเน้นซื้อเฉพาะโครงการที่ตั้งอยู่ในทำเลที่ดี เช่น พระราม 9-รัชดาฯ หรือในพื้นที่ใจกลางเมือง ราคาที่เหมาะสม และเป็นโครงการที่ยังพอทำกำไรได้หรือให้ผลตอบแทนดี” นายภัทรชัยกล่าว

เร่งปั้นไทยฮับออร์แกนิกอาเซียน

นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมได้จัดทำแผนยุทธศาสตร์ในการส่งเสริมและผลักดันตลาดเกษตรอินทรีย์ (ออร์แกนิก) ระยะ 3 ปีจากนี้ ในการส่งเสริมให้เกษตรกรหันมาเพาะปลูกเกษตรปลอดสารและสนับสนุนผู้ประกอบการสร้างอาชีพจากการพัฒนาสินค้าออร์แกนิก รวมถึงเพิ่มการบริโภคสินค้าหรือบริการออร์แกนิก โดยเป้าหมายเพิ่มพื้นที่เพาะปลูกจาก 6 แสนไร่ เป็นกว่า 1 ล้านไร่ และเพิ่มมูลค่าการค้าเป็นกว่า 5,000 ล้านบาท จากปัจจุบันมีมูลค่าประมาณ 3,000 ล้านบาท แต่ส่วนใหญ่เป็นการผลิตเพื่อส่งออกประมาณ 2,000 ล้านบาท เพียง 1,000 ล้านบาท ที่มีการบริโภคในไทย

นายวิชัยกล่าวว่า ในภาพรวมทั่วโลก พบว่าสินค้าออร์แกนิกได้รับความนิยมจากผู้บริโภคและเกษตรกรเองที่ให้ความสำคัญในการดูแลรักษาสุขภาพมากขึ้น โดยเฉพาะกระแสการเลือกบริโภคสิ่งที่มีประโยชน์ ปราศจากสารเคมีและสารพิษตกค้าง (ออร์แกนิกไลฟ์สไตล์) ส่งผลให้ตลาดเกษตรอินทรีย์ทั่วโลกเติบโตได้กว่าปีละ 20% ปัจจุบันมีมูลค่าสูงถึง 104,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 3.55 ล้านล้านบาท ซึ่งตลาดเกษตรอินทรีย์สำคัญของโลก คือ สหรัฐ แคนาดา ยุโรป จีน ออสเตรเลีย ขณะที่ตลาดอาเซียนโตเฉลี่ยปีละ 10% ประเทศที่เด่นคือสิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และไทย

กสทช.ควักคืนแบงก์การันตี 22 ช่อง

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (เลขาธิการ กสทช.) เปิดเผยว่า ขณะนี้เปิดให้ผู้ได้รับใบอนุญาตทีวีดิจิตอลสามารถขอคืนหนังสือค้ำประกันการชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาต (แบงก์การันตี) งวดที่ 5 และ 6 แล้ว สำหรับช่องความคมชัดสูง (เอชดี) จำนวน 7 ช่อง เป็นเงิน 5,616 ล้านบาท ส่วนช่องความคมชัดปกติ (เอสดี) จำนวน 7 ช่อง เป็นเงิน 5,685 ล้านบาท ขณะที่ช่องข่าวสารและสาระ จำนวน 6 ช่อง เป็นเงิน 2,818 ล้านบาท รวมถึงช่องเด็ก เยาวชน และครอบครัว จำนวน 2 ช่อง เป็นเงิน 447 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 14,575 ล้านบาท

“ยกเว้นบริษัท ไทย ทีวี จำกัด ผู้ได้รับใบอนุญาตทีวีดิจิตอลจำนวน 2 ใบอนุญาต ที่ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาล และหลังจากที่ผู้รับใบอนุญาตทีวีดิจิตอลยื่นเอกสารขอคืนแบงก์การันตี ต่อสำนักงาน กสทช.แล้ว จะเร่งตรวจสอบเอกสาร และจะคืนแบงก์การันตีโดยเร็ว” นายฐากรกล่าว

นายฐากรกล่าวว่า สำหรับหลักเกณฑ์ระบุให้สำนักงาน กสทช.ดำเนินการคืนหนังสือค้ำประกันภายใต้เงื่อนไข แบ่งเป็นกรณีผู้รับใบอนุญาตที่ชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตจนถึงงวดที่ 4 ครบถ้วนแล้ว สำนักงาน กสทช.จะคืนหนังสือค้ำประกันงวดที่ 5 และ 6 แล้วแต่กรณี ภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้งความประสงค์ขอคืนหนังสือค้ำประกันดังกล่าว