คลังประเมินนโยบายหาเสียงรัฐบาลใหม่ต้องควักเงินแจกกว่า 1 แสนล้านบาท

นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า สศค.นำนโยบายหาเสียงของพรรคร่วมรัฐบาลในด้านสวัสดิการมาวิเคราะห์เพื่อเตรียมความพร้อมด้านนโยบายสวัสดิการเสนอรัฐบาลชุดใหม่ พบว่าจะต้องใช้เงินไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท ดังนั้นคงต้องรอรัฐบาลใหม่อีกครั้งว่าจะสรุปเรื่องสวัสดิการอย่างไรเพราะต้องดูเงินในกระเป๋าและต้องหารือกับสำนักงบประมาณเพื่อดูงบประมาณที่จะใช้ด้วย รวมถึงต้องพิจารณาขอบเขตการให้สวัสดิการ เช่น ในเรื่องของเบี้ยผู้สูงอายุหาเสียงไว้ว่าจะให้เดือนละ 1 พันบาท จากขณะนี้จ่ายเป็นขั้นบันไดตามอายุเดือนละ 600-1,000 บาท ดังนั้นดูว่าให้เดือนละ 1 พันบาททุกคนหรือไม่หรือให้เฉพาะผู้มีรายได้น้อย

นายลวรณ กล่าวว่า ในเรื่องสวัสดิการคงต้องรอดูนโยบายรัฐบาลชุดใหม่ โดยต้องดูว่าเน้นผู้มีรายได้น้อยหรือไม่ จากขณะนี้ให้ผู้มีรายได้น้อยรับสวัสดิการพื้นฐาน 5 มาตรการผ่านบัตรสวัสดิการ คือ ซื้อของร้านธงฟ้าเดือนละ 200-300 บาท ค่ารถเมล์เดือนละ 500 บาท รถไฟเดือนละ 500 บาท รถบขส.หรือรถไฟฟ้าเดือนละ 500 บาท ส่วนลดในการซื้อก๊าซหุงต้ม นอกจากนี้ยังมีมาตรการเสริม เช่น เพิ่มเบี้ยคนพิการอีกเดือนละ 200 บาทหมออายุเดือนกันยายน 2562 และเพิ่มเงินสำหรับซื้อของร้านธงฟ้าประชารัฐเป็นเดือนละ 500 บาทหมดอายุเดือนมิถุนายน2562 ก่อนหน้านี้เคยให้ค่ารถเพื่อไปรักษาพยายาลสำหรับคนชรา 1,000 บาท ให้ค่าเช่าบ้าน ให้เงินปีใหม่ 500 บาท ซึ่งตรงนี้จะมีหรือมไอย่างไร คงต้องขึ้นอยู่กับรัฐบาลใหม่

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า พรรคพลังประชารัฐหาเสียงเรื่องสวัสดิการคนจน ประกอบด้วย ค่าน้ำเดือนละ 100 บาท ค่าไฟเดือนละ 230 บาท ค่าเช่าบ้าน เดือนละ 400 บาท เป็นเวลา 10 เดือน วงเงินซื้อของร้านธงฟ้าประชารัฐ 500 บาท สวัสดิการผู้สูงอายุ เช่น เบี้ยผู้สูงอายุเดือนละ 1,000 บาท แจกคูปองซื้ออุปกรณ์ผู้สูงอายุ

มติชนออนไลน์