‘วราวุธ’ เชื่อ ได้ครม.ใหม่หลังอาเซียนซัมมิท มั่นใจ รบ.เสียงปริ่มน้ำไม่ใช่ปัญหา ชี้ปมแก้รธน.จะทำทุกฝ่ายทำงานร่วมกันได้

เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน นายวราวุธ ศิลปอาชา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.)ฐานะประธานคณะทำงานด้านยุทธศาสตร์และนโยบายของพรรค ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าร่วมพิธีรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ ถึงการหารือเพื่อกำหนดนโยบายของรัฐบาล ว่า ชทพ.พร้อมส่งตัวแทนเข้าร่วมประชุมกับพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลเพื่อนำเสนอนโยบายให้พิจารณาต่อการยกร่างนโยบายของรัฐบาล โดยเฉพาะ นโยบายพรรคได้หาเสียงไว้กับประชาชน อาทิ ด้านการเกษตร, การศึกษา, สาธารณสุข ด้านสังคม รวมถึงด้านสิ่งแวดล้อม ส่วนจะส่งบุคคลใดนั้น ยังอยู่ระหว่างพิจารณา เพราะยังไม่ได้ประสานว่าจะให้เข้าหารือช่วงเวลาใด เช่นเดียวกับกรณีการเสนอชื่อบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีของชทพ.นั้น ยังไม่ได้รับการประสานเช่นกัน ส่วนตัวเชื่อว่า อาจต้องรอให้พ้นจากการจัดประชุมอาเซียนซัมมิท ช่วงวันที่ 22- 23 มิถุนายนเพื่อให้คณะรัฐมนตรีชุดปัจจุบันดำเนินการประชุมไปก่อนเพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง

เมื่อถามถึงการเมืองหลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ รับตำแหน่งนายกฯคนใหม่อย่างเป็นทางการ นายวราวุธ กล่าวว่า การเมืองในสภาผู้แทนราษฎร จะเป็นไปอย่างกระตือรือร้น เพราะเสียงของ 2 ฝ่ายในสภาใกล้เคียงกัน การเข้าประชุม หรือการลงคะแนนแต่ละครั้งต้องมีวินัยไม่ขาดการประชุม ส่วนกรณีที่มีความเป็นไปได้ ส.ส.จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีนั้น ตนเชื่อว่า จะไม่เป็นปัญหาต่อจำนวนสมาชิกส.ส.ที่จะต้องร่วมประชุม ร่วมถึงลงมติ ทั้งนี้หากการลงมติในร่างกฎหมายใดที่รัฐมนตรีรายนั้นมีส่วนได้ส่วนเสียเสียงลงมติอาจจะหายไปนั้น ชทพ.ไม่มีปัญหา สำหรับประเด็นแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่พรรคฝ่ายค้านเตรียมจะยื่นแก้ไข 2 มาตรานั้น ตนเห็นว่า เพื่อให้เกิดความร่วมมือทุกฝ่ายตามเงื่อนไขที่รัฐธรรมนูญกำหนด ต้องพิจารณาร่วมกันทั้งฝ่ายบริหารและฝ่ายค้าน ทั้งนี้มองว่าประเด็นแก้รัฐธรรมนูญอาจเป็นโอกาสดีที่ส.ส.ทุกฝ่ายจะร่วมหารือกัน และร่วมมือกันทำงานให้เดินหน้า ไม่ใช่ทำงานแบบแบ่งฝ่าย หากยังยึดติดการแบ่งฝ่ายต่อไป วังวนปัญหาเก่าๆ อาจจะกลับมาได้แบบเป็นประเด็นไม่รู้จบได้

มติชนออนไลน์