วันที่ 11 มิถุนายน 2562 สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯได้ออกมาแสดงความกังวลอย่างยิ่งต่อกรณีการผลักดันกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนโดยสภาบริหารเกาะฮ่องกง พร้อมกับเตือนว่าหากทางการฮ่องกงยังเดินหน้าต่อ อาจส่งผลเสียต่อสถานะพิเศษที่สหรัฐให้กับฮ่องกงด้วย

ท่าทีดังกล่าวมีขึ้นเมื่อมอร์แกน ออร์ตากุส โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯแถลงสรุปข่าวว่า การเดินหน้าลิดรอนหลัก “1 ประเทศ 2 ระบบ” จะสร้างความเสี่ยงต่อสถานะพิเศษในกิจการระหว่างประเทศที่ฮ่องกงมีมายาวนาน โดยระบุถึงหลักนโยบายสหรัฐ-ฮ่องกง ปี 1992 ซึ่งเป็นกรอบทางกฎหมายที่รัฐบาลสหรัฐฯมีข้อตกลงในการปฏิบัติเป็นกรณีพิเศษต่อฮ่องกงที่ต่างจากจีนทั้งหมดเพื่อวัตถุประสงค์ตามกฎหมายภายในประเทศของสหรัฐฯ

“สหรัฐฯแสดงขอแสดงความกังวลอย่างยิ่งต่อการผลักดันแก้ไขกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนของรัฐบาลฮ่องกง” นางออร์ตากุส กล่าว

พร้อมกันนี้ นางออร์ตากุสยังกล่าวถึงการชุมนุมประท้วงอย่างสันติของชาวฮ่องกงเกือบล้านคนว่าเป็นการแสดงถึงการคัดค้านต่อการแก้ไขกฎหมายอย่างชัดเจนที่สุด และยังระบุว่า สหรัฐฯพร้อมแบ่งความห่วงใยถึงชาวฮ่องกงจำนวนมากที่ขาดแคลนการคุ้มครองขั้นตอนในการแก้ไขกฎหมายที่เสนอ ซึ่งอาจส่งผลเสียต่ออธิปไตยของฮ่องกงและส่งผลเสียต่อการปกป้องสิทธิมนุษยชน เสรีภาพขั้นพื้นฐานและค่านิยมตามระบอบประชาธิปไตย

ทั้งนี้ ท่าทีดังกล่าวของสหรัฐฯ เกิดขึ้นหลังจากที่นางแครี่ หล่ำ หัวหน้าคณะผู้บริหารเกาะฮ่องกงประกาศลั่นว่าจะผลักดันแก้ไขกฎหมายนี้ต่อ โดยมองข้ามเสียงประท้วงของประชาชนที่ออกมาชุมนุมจนแน่นเมือง