“ดุสิตโพล” ภาวะขั้วรัฐบาล-ต่อรองเก้าอี้ ทำปชช.เบื่อมาก ชี้มีแต่แย่งผลประโยชน์ แนะปฏิบัติตามกฎสากล-เป็นประชาธิปไตย

วันที่ 2 มิถุนายน 2562 สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้เปิดผลสำรวจความเห็นเรื่องความอึดอัดของประชาชนในการจัดตั้งรัฐบาล โดยสถานการณ์ทางการเมืองไทยยังคงร้อนแรงมีความเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา โดยเฉพาะข่าวการจับขั้วพรรคการเมืองเพื่อจัดตั้งรัฐบาลที่พลิกไปมาไม่มีความชัดเจนแน่นอน สร้างความอึดอัดใจให้กับประชาชนที่อยากจะเห็นรัฐบาลใหม่โดยเร็ว เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของประชาชนที่สนใจติดตามข่าวการเมือง

จากการสำรวจจำนวน ทั้งสิ้น 1,137 คน ระหว่างวันที่ 28 พฤษภาคม – 1 มิถุนายน 2562 สรุปผลได้ ดังนี้

โดยคำถามแรกระบุว่า ประชาชนคิดอย่างไร? กับความไม่แน่นอนในการจับขั้วพรรคการเมืองเพื่อจัดตั้งรัฐบาล อันดับสูงสุด มองว่า เป็นเรื่องผลประโยชน์ตอบแทน การยื่นข้อเสนอต่อกัน โดยคิดเป็น 44.14% ตามด้วย ภายในพรรคเสียงแตก ความคิดเห็นไม่ตรงกัน ตกลงกันไม่ได้ คิดเป็น 33.30% ทุกพรรคอยากเป็นรัฐบาล มีการเลือกข้าง เลือกฝ่ายที่ได้เปรียบ คิดเป็น 17.86% พรรคขนาดกลางเป็นตัวแปรส าคัญในการจัดตั้งรัฐบาล คิดเป็น 12.74% ยังจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ ยังไม่ชัดเจน คิดเป็น 10.69%

ในส่วนคำถามที่สอง ประชาชนคิดว่าปัญหาในการจัดตั้งรัฐบาลที่ยืดเยื้อ เกิดจากสาเหตุอะไร? อันดับสูงสุดมองว่า ผลประโยชน์ไม่ลงตัว แย่งเก้าอี้ ไม่ได้ตามข้อเสนอที่ต้องการ  คิดเป็น 67.45% ตามมาด้วย ผู้นำพรรคยังตัดสินใจไม่ได้ มีความขัดแย้งภายในพรรค คิดเป็น 28.27% เป็นเกมการเมือง ยังจับขั้วพรรคการเมืองไม่สำเร็จ คะแนนเสียงไม่เพียงพอ คิดเป็น 19.08%

ขณะที่คำถามที่สาม สิ่งที่ประชาชนอยากบอกพรรคการเมืองต่างๆ เกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาล โดยยังแบ่งพรรคการเมืองออกเป็น 3 กลุ่ม คือ พรรคขนาดใหญ่ (พลังประชารัฐ เพื่อไทย) อันสูงสุดมองว่า นึกถึงประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ หยุดเห็นแก่ตัว คิดเป็น 58.43% เคารพกฎหมาย เป็นประชาธิปไตย ฟังเสียงประชาชน คิดเป็น 39.29% เร่งจัดตั้งรัฐบาลโดยเร็ว คิดเป็น 26.24%

มาในกลุ่มพรรคขนาดกลาง (ภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ อนาคตใหม่) รักษาสัญญา ทำตามที่หาเสียงไว้ ไม่โกหกประชาชน คิดเป็น 47.75 ปฏิบัติตามหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา เคารพกฎหมาย คิดเป็น 30.81% และคำนึงถึงชื่อเสียง อุดมการณ์ของพรรค คิดเป็น 25.23%

ต่อกันที่ พรรรคขนาดเล็ก ผลสำรวจระบุว่า ทำตามหน้าที่ให้ดีที่สุด สร้างผลงานให้เห็นเป็นรูปธรรม คิดเป็น 53.42% ไม่สร้างความวุ่นวาย อยู่ในขอบเขต หยุดตอบโต้กันไปมา คิดเป็น 34.70% ไม่ยอมเป็นเครื่องมือทางการเมือง เป็นตัวแทนของประชาชน คิดเป็น 18.72%

นอกจากนี้ ในข้อที่สี่ ประชาชนมีข้อเสนอแนะอย่างไร? ที่จะทำให้การจัดตั้งรัฐบาลรวดเร็วและประสบผลสำเร็จ โดยผลออกมาเป็น ปฏิบัติตามหลักสากล เคารพเสียงส่วนใหญ่ เป็นประชาธิปไตย คิดเป็น 43.73% ลดการต่อรอง ไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้องมากเกินไป คิดเป็น 40.31% ถอยคนละก้าว ลดทิฐิ ไม่ทะเลาะเบาะแว้งกัน คิดเป็น 31.77%

ทั้งนี้ ในข้อสุดท้ายของผลสำรวจ โดยภาพรวมแล้ว กรณีการจัดตั้งรัฐบาล ทำให้ประชาชนเบื่อหน่ายการเมืองมากน้อยเพียงใด? ผลปรากฎว่า เบื่อหน่ายมากขึ้น คิดเป็น 76.29% เพราะการเมืองไทยมีแต่ความขัดแย้ง แย่งชิงผลประโยชน์ ผ่านการเลือกตั้งมาแล้วแต่ยังไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ บ้านเมืองไม่มี
เสถียรภาพ ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ฯลฯ

เบื่อหน่ายเหมือนเดิม คิดเป็น 19.45% เพราะ หากต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกัน ยังคงมีทิฐิด้วยกันเหมือนเดิมเหตุการณ์ต่างๆก็ยังคงมีอยู่แบบนี้ต่อไป ยังมองไม่เห็นหนทางแก้ไขให้ ปัญหาต่างๆคลี่คลายลงได้ฯลฯ

และ เบื่อหน่ายน้อยลง คิดเป็น 4.26% เพราะ อย่างน้อยก็ทำให้คนสนใจการเมืองมากขึ้น ได้เลือกตั้ง เป็นการแสดงออกทางการเมือง ฯลฯ