รำลึก 9 ปี สลายชุมนุมราชประสงค์ “ที่นี่มีคนตาย” ใครลืม…เราไม่ลืม

วันที่ 19 พ.ค. ที่วัดปทุมวนารามราชวรวิหาร นางพะเยาว์ อัคฮาด มารดาของ น้องเกด พร้อมด้วยน.ส.ณัฐธิดา​ มีวังปลา​ พยาบาลอาสา​ ได้จัดกิจกรรมรำลึกครบรอบ 9 ปี การเสียชีวิต ของ น.ส.กมลเกดที่ถูกยิงจนเสียชีวิตเมื่อ 15 พ.ค.53 ในเหตุการณ์สลายการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ ติดตามเฝ้าสังเกตการณ์

นางพะเยาว์ได้ วางเสื้อกั๊ก พยาบาลอาสาของน้องเกด พวงมาลัยดอกไม้ ดอกกุหลาบแดง ตรงจุดที่มีผู้เสียชีวิต 6 ศพ​ จากนั้นจะเดินเท้าไปที่แยกราชประสงค์

ส่วนที่บริเวณแยกราชประสงค์​ ได้มีการทำกิจกรรมของกลุ่มประชาชนอยากเลือกตั้ง นำโดยนายอนุรักษ์ เจตวานิชย์ แกนนำกลุ่มประชาชนอยากเลือกตั้ง นายเอกชัย หงส์กังวาน เดินรณรงค์พร้อมชูป้าย 9ปี รำลึกวีรชน 19 พ.ค.53 พวกเราไม่ทิ้งกัน แล้วยังตะโกนเรียกร้องให้หยุดทำร้ายนักกิจกรรมด้วย

ขณะที่ นายสิรวิชญ์​ เสรีธิวัฒน์​ หรือจ่านิว นำโต๊ะมาตั้ง​ เพื่อทำกิจกรรมช่วยกันเขียนจดหมาย​ถึง ส.ว.​ ไม่ให้ร่วมโหวต​เลือกนายกรัฐมนตรี โดยมีน.ส.ณัฎฐา​ มหัทธนา​ หรือ โบว์ ใช้โทรโข่ง​ รณรงค์ประชาสัมพันธ์​ ให้ประชาชนทั่วไปมาร่วมทำกิจกรรมดังกล่าว และยังมีนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชื่อรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ร่วมในกิจกรรมครั้งนี้ด้วย

นางพะเยาว์ เปิดเผยว่า สำหรับในวันนี้ตนตั้งใจจะมารำลึกถึงลูกสาวที่เสียชีวิตไป และก็ยังคงเสียใจอยู่ตลอด ซึ่งวันนี้ตั้งใจมาทำสังฆทานที่วัดแห่งนี้ โดยนัดรวมตัวกันเวลา 16.00 น. แต่ก็มีปัญหา เพราะสถานที่ทำสังฆทานปิดให้บริการ ทั้งๆที่เปิดให้บริการทุกวัน และจะปิดในเวลา 17.00 น. นั่นหมายความว่าก็จะไม่ได้ทำบุญที่วัดแห่งนี้ และที่ผ่านมาจะถูกปฏิเสธทุกครั้ง

ทั้งที่จริงๆแล้วการรำลึกถึงคนตายก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร ตนจึงคิดว่าในกรณีเช่นนี้ ยังไงก็เปลี่ยนประวัติศาสตร์ไม่ได้ ว่าที่นี่เคยมีคนตาย ดังนั้นการทำอะไรแบบนี้ หรือการกีดกันคนจะทำบุญ ถือว่าใจแคบมากๆ

นางพะเยาว์ กล่าวว่า ส่วนความรู้สึกที่อัยการไม่รับฟ้องนั้น บอกตามตรงว่าไม่ได้รู้สึกอะไร และเรื่องราวก็ไม่เกี่ยวกับอัยการศาลทหาร ไม่ทราบว่ามายุ่งอะไรกับคดีนี้ เพราะมันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคุณ เพราะคดีนี้ขึ้นตรงกับศาลพลเรือนมาโดยตลอด ตอนนี้รอแค่ขั้นตอนการไต่สวน และส่งมอบสำนวนให้อัยคดีพิเศษ เพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

ส่วนคนที่มีอำนาจเกี่ยวข้องกับทหารนั้น ก็อาจจะลำบากหน่อย แต่ก็จะสู้ ไม่ท้อถอย และสังคมนี้ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร ยกตัวอย่างเช่นถ้าตนถูกกระทำโดยไม่ได้รับความเป็นธรรม เชื่อว่าสังคมก็จะรับรู้ได้และก็ยังเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย

เชื่อว่าถ้ารัฐบาลมาจากประชาธิปไตย สถานการณ์ทุกอย่างก็คงจะดีขึ้น นอกจากนี้อยากจะฝากบอกทหารว่า คดีความที่พยามปิดกั้น และพยามทำให้สังคมลืม รวมทั้งเข้าใจว่าคุณไม่ผิด ทั้งๆที่ในอดีตที่ผ่านมาทหารฆ่าประชาชนมือเปล่า แล้วไม่เคยถูกกระบวนการยุติธรรมดำเนินการ จึงเกิดความเหลิง

แต่สำหรับเหตุการณ์ปี 53 นั้น คิดว่าจะรอดพ้นไปได้งั้นหรือ ในฐานะที่ตนเป็นแม่ผู้เสียชีวิต จะไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่รัฐที่กระทำกับประชาชนจนเสียชีวิตลอยนวลเด็ดขาด