วันที่ 17 พฤษภาคม 2562 เว็บไซต์เดอะการ์เดี้ยนของอังกฤษรายงานว่า น.ส.เชลชี แมนนิ่ง หรือชื่อเดิมแบรดลีย์ แมนนิ่ง อดีตทหารฝ่ายวิเคราะห์ข่าวกรองของกองทัพสหรัฐฯ ผู้เปิดโปงโทรเลขทางการทูตหรือเคเบิลหลายล้านฉบับและส่งข้อมูลให้กับวิกีลีกส์ ซึ่งแจ้งเกิดกับการแฉกรณีดังกล่าว ได้ถูกส่งตัวกลับเข้าเรือนจำเมื่อคืนวานนี้ ฐานฝ่าฝืนคำสั่งศาล หลังจากปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือกับคณะลูกขุนในการให้การซึ่งเกี่ยวข้องกับการดำเนินคดีนายจูเลียน อัสซาสจ์ ผู้ก่อตั้งวิกีลีกส์ ที่ถูกตำรวจจับกุมภายในสถานทูตเอกวาดอร์ในกรุงลอนดอนเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน

น.ส.แมนนิ่ง ได้กล่าวกับนายแอนโทนี่ เทรนก้า ผู้พิพากษาศาลกลางประจำเมืองอเล็กซานเดรีย มลรัฐเวอร์จิเนีย ด้วยน้ำเสียงท้าทายว่า “ตนขออดอยากจนตาย” ดีกว่าจะร่วมมือให้การต่อหน้าคณะลูกขุน จากนั้นน.ส.แมนนิ่งถูกส่งตัวเข้าเรือนจำ หลังจากเธออยู่ในเรือนจำมาแล้ว 62 วัน ก่อนถูกปล่อยตัวออกมาเมื่อสัปดาห์ก่อน และได้ขึ้นศาลเพื่อเข้าฟังคำสั่งจากผู้พิพากษาว่าจะยอมร่วมมือให้การต่อคณะลูกขุนหรือไม่

ด้านนายเทรนก้ากล่าวว่า จะเพิ่มบทลงโทษต่อน.ส.แมนนิ่งด้วยการจ่ายค่าปรับหากน.ส.แมนนิ่งยังปฏิเสธให้การ โดยหลังอยู่ในเรือนจำ 30 วัน เธอจะถูกปรับเป็นเงินวันละ 500 ดอลลาร์สหรัฐฯ และหากอยู่ถึง 60 วัน เธอจะถูกเพิ่มค่าปรับไปอีกวันละ 1000 ดอลลาร์สหรัฐฯ

ขณะที่ มอยร่า เมลเซอร์ โคเฮน ทนายความส่วนตัวของน.ส.แมนนิ่งกล่าวหลังการพิจารณาคดีเมื่อวานนี้ว่า ในปี 2010 น.ส.แมนนิ่งได้สร้างบรรทัดฐานที่ทำให้โลกเห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของสงครามอสมมาตร และยังบอกว่าสหรัฐฯหวาดกลัวมากกับการเปิดเผยเอกสารเหล่านี้มากกว่าถูกสาปแช่งในเรื่องที่ถูกเปิดเผย

ทั้งนี้ การช่วงชิงเหนือคณะลูกขุนได้กลับกลายเป็นการต่อสู้ทางเจตจำนงครั้งใหญ่ระหว่าง อัยการรัฐเวอร์จิเนียที่ตั้งใจบังคับให้นายแมนนิ่งให้การในสิ่งที่หวังว่าจะนำไปสู่การพิจารณาคดีนายอัสซาสจ์กับน.ส.แมนนิ่ง ซึ่งเธอพิสูจน์แล้วว่า ตัวเองไม่ยอมงอแค่ไหน