พรรคเพื่อไทย แถลงหลังปิดหีบ พร้อแล้ว ที่จะเป็นผู้นำ จับมือฝ่ายประชาธิปไตย!

“พรรคเพื่อไทย” แถลงขอบคุณทุกคะแนนเสียง พร้อมแล้ว ที่จะจับมือกับฝ่ายประชาธิปไตย

เมื่อวันที่ 24 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่พรรคเพื่อไทย (พท.) เป็นไปอย่างคึกคัก บรรดาแกนนำพรรค ทยอยเดินทางเข้าพรรคภายหลังไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งกันอย่างต่อเนื่อง ขณะที่กองทัพสื่อมวชนทั้งไทยและต่างชาติ ต่างปักหลักรอทำข่าวเลือกตั้งที่พรรคจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีกลุ่มผู้สนับสนุนพรรค เดินทางมารอให้กำลังใจทางพรรคด้วย ทั้งนี้ ทางพรรคได้เปลี่ยนแบนเนอร์ด้านหลังห้องแถลงข่าวจากแคมเปญพรรคเป็นข้อความ “ขอบคุณทุกกำลังใจ พรรคเพื่อไทยจะทำตามที่พูดไว้กับประชาชน”

เมื่อเวลา 17.30 น. แกนนำพรรคเพื่อไทย นำโดยคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรค นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯ พร้อมด้วยพล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ หัวหน้าพรรค นายกิตติรัตน์ณ ระนอง รองหัวหน้าพรรค นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรค นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย นายโภคิ นพลกุล คณะทำงานฝ่ายกฎหมาย

พล.ต.ท.วิโรจน์ กล่าวว่า ขอบพระคุณพี่น้องประชาชนทุกท่านที่ออกมาใช้สิทธิเพื่อรักษาระบอบประชาธิปไตยอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือกรณีที่มีการแจกเงิน และมีเจ้าหน้าที่ของรัฐไปข่มขู่ คุกคาม ก็ฝากเรื่องนี้ให้ กกต.ดำเนินการ ทั้งนี้ ขอประชาชนช่วยกันตรวจสอบการนับคะแนนด้วยเพื่อความยุติธรรมและความโปร่งใส

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า พวกเราในนามพรรคพท. ต้องกราบขอบพระคุณทุกคนที่ให้ความไว้วางใจแก่พรรคพท. ทุกคะแนนทุกความไว้วางใจจะไม่สูญเปล่าเราจะมุ่งมั่นทำงานอย่างหนักต่อไปเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการทำงให้เกิดความสุข เกิดเศรษฐกิจที่ดีและเกิดความสงบสุขในบ้านเมือง ทุกนโนบายที่เราให้คำมั่นสัญญาและได้รับความคาดหวังจากประชาชน เรารับมา และจะพยายามที่จะทำงานอย่างหนักต่อไป เพื่อเป็นส่วนหนึ่งที่จะให้เกิดความก้าวหน้าในการทำงานให้ประเทศชาติ

นอกจากนี้เราขอให้ความมั่นใจว่าพี่น้องประชาชนนจะไม่ผิดหวังที่ให้คะแนนเสียงกับเรา เป็นพันธกิจที่เราจะทำให้พี่น้องประชาชนหายทุกข์ มีความสุข และมีเศรษฐกิจที่ดี ส่วนการทำงานในอนาคต มีคนพยายามสอบถามว่าเราจะไปร่วมกับใครนั้น ขอให้ผลของการเลือกตั้งออกมาก่อน แต่เรายืนยันตามหลักการที่เราได้พูดไว้ว่าเราจะทำงานร่วมกับพรรคที่ไม่สนับสนุนการต่อท่ออำนาจ และไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ทั้งนี้ ผลการเลือกตั้งออกมาอย่างไร นั่นคือฉันทามติจากประชาชนว่าต้องการให้ใครบริหารประเทศก่อน ดังนั้นเรายังคงยืนยันในหลักการว่าพรรคอันดับ 1 ต้องมีสิทธิในการจัดตั้งรัฐบาลก่อน เพราะการเลือกตั้งทุกครั้งก็ทำแบบนี้และหวังว่า ส.ว.ที่ถูกแต่งตั้งโดย คสช. 250 คน จะดำเนินการตามเจตนารมณ์ของพี่น้องประชาชนในการเลือกตั้ง

นายภูมิธรรม กล่าวว่า การเลือกตั้งวันนี้ที่ไม่ปกติเท่าไหร่ เพราะเป็นการเลือกตั้งที่ใช้ทุกอย่างทั้งเงิน และอำนาจรัฐ เมื่อวานในพื้นที่ที่สนับสนุนพรรค พท.ถูกเจ้าหน้าที่เข้าไปบุกและตรวจสอบ แต่เราไม่ได้หวั่นเกรงอะไร เพราะเข้าไปแล้วก็ไม่เจออะไร

เราหวังว่าพี่น้องจะเข้าใจและรับทราบเหตุการณ์ต่างๆ เหล่านี้ ซึ่งจะเป็นสิ่งที่ยืนยันการตัดสินใจของประชาชนที่จะเกิดขึ้นในวันนี้เป็นเหตุแห่งการตัดสินใจของพี่น้องประชาชน ทั้งนี้ ตนอยากขอให้พี่น้องประชาชนทั่วประเทศช่วยกันดูแลหน่วยเลือกตั้งทุกหน่วย

เพื่อให้ผลการเลือกตั้งออกมาอย่างยุติธรรมที่สุด ทั้งตรวจสอบคะแนนที่มีการนับในหน่วยเลือกตั้ง เพื่อให้คะแนนที่ออกมาได้รับการยอมรับและเชื่อถือได้ นอกจากนี้ความตื่นตัวของประชาชนตั้งแต่การเลือกตั้งล่วงหน้าจนถึงวันนี้ ยืนยันถึงความตืนตัวของประชาชนที่ประจักษ์ชัดกับทุกฝ่าย ซึ่งสิ่งที่แสดงเจตนารมณ์ในครั้งนี้ คือเราต้องเคารพเจตจำนงประชาชน ไม่ว่าผลการเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร

นายถูมิธรรม กล่าวต่อว่า ส่วนกระบวนการจัดตั้งรัฐบาลเพื่อนำพาประเทศออกจากปัญหานั้นขอให้ ส.ว.สรรหาที่มาจากเงินภาษีของประชาชนยอมรับการตัดสินใจและจุดยืนของประชาชนที่มาร่วมกันลงความเห็นเพื่อตัดสินใจในครั้งนี้ และสุดท้ายผลการเลือกตั้งที่ชัดเจนในวันนี้จะมีความชัดเจนว่าจะมีความร่วมมือระหว่างฝ่ายที่จะจัดตั้งรัฐบาลอย่างไร

ตนยืนยันว่าเราพร้อมจะจับมือกับฝ่ายประชาธิปไตยทุกส่วน ทุกฝ่าย ร่วมจัดตั้งรัฐบาลที่จะพาประเทศออกจากปัญหาที่เผชิญมาตลอด 5 ปีนี้และเราจะยึดมั่นในเจตจำนงความต้องการ และคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน เราจะร่วมกันผลักดันให้เกิดขึ้นจริง และหลังจากนี้อีก 3 ชั่วโมงจะได้ทราบผลการตัดสินใจของพี่น้องประชาชนเป็นอย่างไร และจะร่วมมือกันอย่างไรเพื่อพาสังคมออกจากทุกข์ที่เผชิญมาตลอด 5 ปี ทั้งนี้ เราไม่ทะยานอยากในการแข่งกันจัดตั้งรัฐบาล หากพรรคใดชนะเสียงได้ที่ 1 เราก็ให้เขาจัดตั้งรัฐบาลก่อนตามประเพณี

เมื่อถามถึงกรณีที่มีการทุจริตการเลือกตั้ง นายภูมิธรรม กล่าวว่าการซื้อเสียงมีหลายที่ แต่น่าเสียดายที่เราไม่สามารถหยิบเป็นหลักฐานที่เป็นรูปธรรมชัดเจนได้ขณะนี้ที่ปรากฎต่อสื่อมวลชน หรือที่ กกต. แถลงอยู่ก็มีจำนวนหลายร้อยเคส

เช่น อย่างที่เกิดขึ้นที่จังหวัดนครปฐม ตามข่าวคือ 2 พรรคการเมืองใหญ่ ที่เราไม่ได้ส่งผู้สมัคร โคราช ขอนแก่น ร้อยเอ็ดซึ่งเป็นปรากฎการณ์ที่ชัดเจน และพูดกันในหมู่ประชาชน ตนคิดว่าการตรวจสอบเรื่องเหล่านี้ประชาชน หรือสื่อมวลชนสามารถตรวจสอบได้ว่ามีกลไก หรือระบบที่ใช้ผ่านกลไกของภาครัฐ หรือหน่วยงานราชการหรือไม่ ก็ขอให้ช่วยกันดูว่าการเมืองบ้านเรามีความโปร่งใส และเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายด้วย