บช.น.ใช้ตำรวจ 6 กองร้อย ดูแล-ป้องกันเหตุ ศาลนัดแถลงลงมติยุบพรรคทษช.หรือไม่ 7 มี.ค.นี้

รอง ผบช.น. เผย ใช้กำลังตร. 6 กองร้อย ดูแลความเรียบร้อย-ป้องกันเหตุ กรณี 7 มี.ค.นี้ ศาลรธน.นัดแถลงลงมติยุบพรรคไทยรักษาชาติหรือไม่

ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เมื่อวันที่ 6 มีนาคม พล.ต.ต.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา รอง ผบช.น. ดูแลด้านความมั่นคง กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญนัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ และลงมติในวันที่ 7 มี.ค. เวลา 13.30 น. กรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยเพื่อมีคำสั่งยุบพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ว่า ประการแรก ศาลท่านได้ประกาศบริเวณที่ทำการศาล เป็นเขตอำนาจศาล ประการที่ 2 ศาลได้อนุญาตให้คู่กรณีทั้ง 2 ฝั่งเข้าไปฟังคำพิพากษาได้ฝั่งละ 16 คน และจัดห้องให้สื่อมวลชนฟังคำพิพากษาผ่านการถ่ายทอดภาพทางโทรทัศน์ ทั้งนี้ พื้นที่ที่ทำการตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเป็นส่วนราชการ ใช้พื้นที่ร่วมกันกับศาลฎีกา กระทรวงยุติธรรม และสำนักงานอัยการสูงสุด ศาลจึงกำหนดพื้นที่เพื่อไม่ให้กระทบกับหน่วยงานอื่น

พล.ต.ต.ภัคพงศ์ เปิดเผยว่า สำหรับมาตรการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้กำหนดมาตรการไว้ตามพื้นที่ชั้นใน ชั้นกลาง และชั้นนอก ในส่วนของพื้นที่ชั้นในซึ่งเป็นพื้นที่ของศาล มีการใช้เครื่องวอล์คทรูตรวจบุคคลเข้าออกตามปกติ รวมถึง อาจต้องขอความร่วมมือตรวจบัตรสื่อมวลชนที่จะเข้าพื้นที่ ส่วนประชาชนที่จะมาให้กำลังใจพรรคไทยรักษาชาติ ศาลได้อนุญาตให้อยู่บริเวณลานกลางศูนย์ราชการฯ อาคารเอ ชั้น 1 ส่วนเขตชั้นกลาง นอกเขตอำนาจศาล เจ้าหน้าที่ตำรวจจะใช้กฎหมายตามพ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พร้อมตั้งจุดสูงข่มและวางกำลังบริเวณพื้นที่โดยรอบ ขณะที่เขตชั้นนอก จะมีการตั้งจุดตรวจคอยดูแลความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อย ภาพรวมใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งหมด 6 กองร้อย เนื่องจากพื้นที่กว้าง

พล.ต.ต.ภัคพงศ์ เปิดเผยอีกว่า เบื้องต้น ทางพรรคไทยรักษาชาติประสานมาว่าจะอยู่ที่ทำการพรรค และมีคนของพรรคส่วนหนึ่งไปฟังการพิจารณา โดยคาดว่าจะมีมวลชนมาให้กำลังใจที่ศูนย์ราชการฯประมาณ 200 คน อย่างไรก็ตาม ตนขอฝากไปถึงประชาชนที่จะเดินทางมาว่า การพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญครั้งนี้ เป็นการพิจารณาตามข้อกฎหมาย ถ้าจะมาให้กำลังใจสามารถกระทำได้ ขอเพียงอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย

ทั้งนี้ มีรายงานข่าวแจ้งว่า สาเหตุที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องใช้กำลังถึง 6 กองร้อย เนื่องจากต้องการดูแลความสงบและรักษาความปลอดภัย และเป็นการป้องกันเหตุจากผู้ที่ไม่หวังดี หรือมือที่สาม นอกจากนี้ ยังมีการเตรียมใช้เฮลิคอปเตอร์ ไว้รองรับหากมีเหตุการณ์ฉุกเฉิน เพื่อเข้าระงับเหตุได้อย่างทันท่วงที.

มติชนออนไลน์