สหประชาชาติ

สหประชาชาติ – สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ คณะทำงานเพื่อตรวจสอบการปฏิบัติตามมติแซงก์ชั่นของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ระบุว่าทางการเกาหลีเหนือยังคงมุ่งดำเนินการเพื่อให้แน่ใจว่าคลังอาวุธนิวเคลียร์และศักยภาพด้านขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีปของตนเองจะไม่ถูกทำลายลง ในกรณีที่เกิดการโจมตีทางทหารต่อเกาหลีเหนือ

ทั้งนี้ รอยเตอร์สระบุว่า เนื้อหาดังกล่าวถูกระบุเอาไว้ในรายงานปกปิดลงวันที่ 4 กุมภาพันธ์ เพื่อนำเสนอต่อสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งยูเอ็น 15 ชาติ ซึ่งผู้สื่อข่าวของรอยเตอร์สมีโอกาสได้เห็น มีใจความว่า “ทีมตรวจสอบได้พบหลักฐานที่แสดงแนวโน้มชัดเจนและต่อเนื่องถึงความพยายามของเกาหลีเหนือที่จะกระจายชิ้นส่วนประกอบ, คลังเก็บและสถานที่เพื่อการทดสอบ” อาวุธนิวเคลียร์ของตนเอง เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกตรวจพบและถูกทำลายนั่นเอง

การออกมาเปิดเผยดังกล่าวนี้มีขึ้นเพียง 1 วันก่อนหน้าที่จะมีการพบหารือในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ระหว่างนายสตีเฟ่น บีกัน ทูตพิเศษในกิจการเกาหลีเหนือของสหรัฐอเมริกา กับนายคิม ฮยอก ชอล ตัวแทนระดับเดียวกันของเกาหลีเหนือเพื่อหารือถึงความคืบหน้าในการเจรจาสุดยอดระหว่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา กับนายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือที่มีเป้าหมายสูงสุดเพื่อปลดอาวุธนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลี

กระทรวงต่างประเทศสหรัฐแถลงในวันเดียวกันนี้ว่า ทางการเกาหลีใต้ได้ตกลงในหลักการที่จะแบ่งปันความรับผิดชอบด้านงบประมาณในการคงฐานทัพอเมริกันไว้ในเกาหลีใต้ ทั้งนี้ มีรายงานระบุว่าตามข้อตกลงใหม่จะทำให้เกาหลีใต้ต้องจัดสรรงบประมาณเกือบ 1,000 ล้านดอลลาร์ สมทบกับงบฯ จากสหรัฐอเมริกาเพื่อเป็นงบประมาณรายจ่ายของฐานทัพดังกล่าวต่อไป

คองโก

กินชาซา – บีบีซีรายงานว่ารัฐบาลคองโกต้องออกแถลงการณ์ชี้แจงเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เกี่ยวกับกฎหมายฉบับใหม่สองฉบับที่ร่างให้มีการจ่ายเงินบำนาญให้กับอดีตนายกรัฐมนตรีและอดีตรัฐมนตรีของประเทศไปตลอดชีวิตเป็นเงินอย่างน้อย 2,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 62,000 บาทต่อเดือน หลังจากกฎหมายดังกล่าวถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าไม่สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจของประเทศที่ยากจน

โดยรัฐบาลคองโกระบุว่า กฎหมายสองฉบับดังกล่าวเพียงต้องการให้อดีตนายกฯ และรัฐมนตรีได้มีเงินใช้สำหรับความจำเป็นขั้นพื้นฐานและไม่ได้มีผลบังคับใช้ย้อนหลังแต่อย่างใด ทั้งนี้ กฎหมายซึ่งลงนามโดยนายบรูโน ชิบาลา นายกรัฐมนตรีคองโก ที่กำลังจะพ้นตำแหน่ง เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา กำหนดให้อดีตนายกรัฐมนตรีและอดีตรัฐมนตรีของคองโกจะได้เงินบำนาญคิดเป็น 30 เปอร์เซ็นต์ของเงินเดือนขณะดำรงตำแหน่งพร้อมด้วยตั๋วเครื่องบินชั้นธุรกิจปีละ 1 ใบ และค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีกอย่างน้อย 30,000 บาท ไปตลอดชีวิต

เยอรมนี

เบอร์ลิน – สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า สายการบินเยอรมาเนีย สายการบินที่มีสำนักงานใหญ่ในกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี แถลงเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ว่า บริษัทได้ตัดสินใจยื่นฟ้องล้มละลายกับศาลในกรุงเบอร์ลิน เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

โดยคาร์สเทน บัลเก ผู้อำนวยการบริหารสายการบิน ได้ออกแถลงการณ์ขอโทษต่อผู้โดยสารและพนักงาน และยอมรับความล้มเหลวในการเสริมสภาพคล่องระยะสั้น ทำให้จำเป็นที่จะต้องยื่นเรื่องล้มละลาย นอกจากนี้ บัลเกระบุว่าปัญหาด้านการเงินของบริษัทส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่สูงขึ้นในช่วงฤดูร้อนของปีก่อน รวมถึงค่าเงินยูโรเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ร่วงลงอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ จากการยื่นเรื่องขอล้มละลายดังกล่าว ส่งผลให้สายการบินเยอรมาเนีย สายการบินที่มีเครื่องบิน 37 ลำ มีเส้นทางบินหลักในเมดิเตอร์เรเนียน แอฟริกาเหนือ และตะวันออกกลาง ต้องยกเลิกเที่ยวบินทั้งหมด