ข่าวเด่นรอบสัปดาห์ : ม.44 ปลดล็อกกัญชา / สั่ง “อุตตม” ชี้แจงที่มาโต๊ะจีน532 ล้านภายใน15วัน / ศึกสุพรรณ ‘จองชัย’

“บิ๊กตู่” เผย จันทร์ที่ 6 พ.ค.หยุดราชการ เพื่อความต่อเนื่องงาน “บรมราชาภิเษก”

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงเมื่อวันที่ 29 มกราคม ถึงหมายกำหนดการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ว่าจะเริ่มตั้งแต่วันเสาร์ที่ 6 เมษายน มีพิธีพลีกรรมตักน้ำทุกจังหวัด โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน

จากนั้นวันจันทร์ที่ 8-วันอังคารที่ 9 เมษายน พิธีเสกน้ำในจังหวัดต่างๆ และวันพฤหัสบดีที่ 18-วันศุกร์ที่ 19 เมษายน พิธีเสกน้ำรวมที่วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ซึ่งเรื่องของน้ำนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงรับสั่งว่าขอให้เป็นน้ำที่สะอาด โดยต้องมีการพิสูจน์ คัดกรองต่างๆ ให้ดี ให้บริสุทธิ์ สะอาด ถือเป็นน้ำมงคลเพราะใช้สำหรับสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และวันจันทร์ที่ 22-วันอังคารที่ 23 เมษายน จะเป็นพิธีจารึกพระสุพรรณบัฏ จากนั้นในวันพฤหัสบดีที่ 2 พฤษภาคม สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเสด็จบวงสรวง และวันศุกร์ที่ 3 พฤษภาคม จะเป็นพิธีเชิญพระสุพรรณบัฏเข้าวัง และประกาศการบรมราชาภิเษก วันเสาร์ที่ 4 พฤษภาคม ช่วงเช้าจะเป็นพิธีบรมราชาภิเษก ช่วงบ่ายถวายพระพร ช่วงเย็นพิธีประกาศพระองค์เป็นพุทธศาสนูปถัมภก และพิธีสักการะพระบรมอัฐิ ส่วนช่วงค่ำจะเป็นพิธีเถลิงพระแท่นบรรจถรณ์ จากนั้นวันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคม ช่วงเช้า มีพิธีเฉลิมพระปรมาภิไธย ช่วงเย็น พิธีเลียบพระนคร ส่วนวันจันทร์ที่ 6 พฤษภาคม ช่วงเย็น เสด็จออกให้ประชาชนเฝ้าฯ และรับคณะทูต ในวันจันทร์ที่ 6 พฤษภาคมนี้ ได้มีการหารือแล้วเห็นควรให้เป็นวันหยุดราชการ ต่อเนื่องตั้งแต่วันเสาร์ อาทิตย์ และจันทร์ ทั้งนี้เพื่อให้การดำเนินการต่างๆ เป็นไปด้วยดี

สั่ง “อุตตม” ชี้แจงที่มา ใน 15 วัน โต๊ะจีนระดมทุน เงิน 532 ล้าน

พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง มีหนังสือลงวันที่ 25 มกราคม ถึงนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ขอให้ชี้แจงและยื่นเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมกรณีเอกสารหลักฐานแจ้งการระดมทุนเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2561 ที่ทางพรรคพลังประชารัฐได้ยื่นต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองเมื่อวันที่ 18 มกราคมที่ผ่านมา พบว่าไม่ครบถ้วนถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด

ทั้งนี้ หนังสือดังกล่าวได้ให้พรรคพลังประชารัฐชี้แจงใน 3 ประเด็น คือ 1) รายละเอียด วัตถุประสงค์ของการจัดกิจกรรมระดมทุน 2) เอกสารใบเสร็จรับเงินตามแบบ พ.ก.9 ที่ออกให้กับผู้สนับสนุน และ 3) รายละเอียดของเงินจำนวน 532,350,000 บาท ที่พรรคแจ้งว่าผู้แสดงเจตนาสนับสนุนกิจกรรม 151 คนยังไม่ส่งมอบให้กับพรรค โดยเงินดังกล่าวถือว่าเป็นเงินที่ได้จากการระดมทุนซึ่งต้องแจ้งตามที่กฎหมายกำหนด ไม่สามารถนำไปแจ้งเป็นรายการประเภทเงินบริจาคได้ โดยให้ชี้แจงและส่งเอกสารหลักฐานกลับมาภายใน 15 วันนับแต่ได้รับหนังสือ ซึ่งไม่ปฏิบัติต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

อนึ่ง ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 18 มกราคม พรรคพลังประชารัฐได้แจ้งกิจกรรมระดมทุนของพรรคว่ามีผู้สนับสนุนที่มอบเงินให้จำนวน 24 รายการ รวมเป็นเงิน 90 ล้านบาท มีรายจ่ายการจัดกิจกรรมจำนวน 10,897,950 บาท และมีผู้แสดงเจตนาสนับสนุนกิจกรรมของพรรค แต่ไม่สามารถส่งมอบเงินให้แก่พรรคในวันระดมทุนได้อีกจำนวน 151 คน รวมเป็นเงิน 532,350,000 บาท เมื่อพรรคได้รับเงินจำนวนนี้แล้วจะดำเนินการรวบรวมเป็นเงินบริจาคตามระเบียบกฎหมายและรายงานต่อ กกต.ให้ทราบต่อไป

นายกฯ แจงเหตุใช้ ม.44 ปลดล็อกกัญชา 

เมื่อวันที่ 29 มกราคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์กรณีออกคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 1/62 เรื่อง การแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยสิทธิบัตรและมาตรการด้านสิทธิบัตรเป็นกรณีพิเศษ เมื่อวันที่ 28 มกราคมที่ผ่านมา ว่า เพื่อแก้ปัญหาเกี่ยวกับเรื่องสิทธิบัตรที่ขอมาล่วงหน้า แต่ขณะเดียวกันเราต้องรอคอยกฎหมายถึง 2 ฉบับ ทั้งกฎหมายยาเสพติดและประมวลกฎหมายอาญาเรื่องยาเสพติดอีก 2 ฉบับ ที่จะออกตามมา อันนี้จะปลดล็อกตรงนี้ให้ก่อน และเป็นเรื่องของกรมสิทธิบัตร ที่จะไปแก้ปัญหาให้ได้ในกรณีที่เสนอเข้ามาก่อนที่กฎหมายจะออก เพื่อไม่ให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบในอนาคต

ด้านกระทรวงพาณิชย์ เผยคำสั่งการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยสิทธิบัตรและมาตรการด้านสิทธิบัตรเป็นกรณีพิเศษออกมา เพื่อแก้ความห่วงกังวลจากภาคส่วนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นนักวิชาการหรือนักวิจัย เกี่ยวกับการขอรับสิทธิบัตรสารสกัดกัญชาธรรมชาติ ซึ่งตนได้กำชับและมีคำสั่งให้กรมทรัพย์สินทางปัญญาปฏิบัติตามคำสั่ง คสช. ดำเนินการสั่งยกคำขอที่อยู่ระหว่างดำเนินการหรือสั่งตัดการประดิษฐ์ที่มีลักษณะดังกล่าวออกเป็นกรณีเร่งด่วน จำนวน 7 คำขอ โดยให้ผู้ขอมีสิทธิสามารถอุทธรณ์คำสั่งยกคำขอต่อคณะกรรมการสิทธิบัตรได้ภายใน 60 วัน

“จองชัย” ยืนยันลงชิง ส.ส.เขต 3 สุพรรณ “ประภัตร” ยันไม่หวั่น

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 29 มกราคม ที่พรรคภูมิใจไทย นายจองชัย เที่ยงธรรม อดีต ส.ส.สุพรรณบุรี พรรคชาติไทย มาแสดงตนอย่างเป็นทางการในการลงสมัคร ส.ส.สุพรรณบุรี เขต 3 พรรคภูมิใจไทย (ภท.) โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคและคณะให้การต้อนรับ นายจองชัยกล่าวว่า “ผู้แทนของจังหวัดสุพรรณบุรี มี 4 เขต ซึ่งเป็นที่ยอมรับอยู่ 4 ตระกูล คือ เขต 1 ตระกูลศิลปอาชา เขต 2 ตระกูลประเสริฐสุวรรณ เขต 3 ตระกูลโพธสุธน และเขต 4 ตระกูลเที่ยงธรรม แต่ปรากฏว่าเขต 4 ตระกูลโพธสุธน ไปหาเสียงช่วยหลานที่ส่งสมัครแข่งกับลูกผม จึงท้วงติงไปว่าไม่ถูกต้อง แต่ก็ยังเฉยเมย ผมก็รอไม่ได้ เพราะลูกผมมีคู่แข่งคือตระกูลโพธสุธน ผมจึงมาสมัครพรรคภูมิใจไทย และประกาศตัวลงสมัครรับเลือกตั้งในเขต 3 เพราะถ้าเขต 4 มีโพธสุธน เขต 3 ก็ต้องมีเที่ยงธรรม คู่ขนานกันไป และให้ประชาชนเป็นผู้เลือกว่าจะเอาตระกูลไหน โดยมั่นใจว่าเที่ยงธรรมจะปักธงได้ทั้งสองเขต” นายจองชัยกล่าว และว่า มั่นใจว่าจะชนะการเลือกตั้ง ตนไม่เคยแพ้

ด้านนายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรคชาติไทยพัฒนา และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 สุพรรณบุรี พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวที่นายจองชัยเตรียมลงแข่งขันว่า “ไม่เป็นอะไร ก็เป็นเรื่องของเขา” พร้อมกับเปล่งเสียงคำว่า “ฮา” จำนวน 3 ครั้งด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย