เผยแพร่ |
---|
วันที่ 21 ธันวาคม 2561 แกนนำพรรคไทยรักษาชาติ นำโดย ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรค นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประธานคณะทำงานรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ ประธานคณะทำงานภาคใต้ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล คณะกรรมการสรรหา นายประภัสร์ จงสงวน นายก่อแก้ว พิกุลทอง แกนนำพร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารพรรค ดร. ฤภพ ชินวัตร รองหัวหน้าพรรค นายวิม รุ่งวัฒนจินดา รองเลขาธิการพรรคฯ นายพงศ์เกษม สัตยาประเสริฐ โฆษกพรรค นางสาวชยิกา วงศ์นภาจันทร์ นายทะเบียนพรรค ดร.อรุณี กาสยานนท์ รองโฆษกพรรค และนางสาวสุทิษา ประทุมกุล คณะกรรมการสรรหา ลงพื้นที่ จ. ภูเก็ต เพื่อรับฟังความคิดเห็นเรื่องการท่องเที่ยว ปัญหาสิ่งแวดล้อม ปัญหาจราจรติดขัด และการจัดระเบียบผู้ค้า-ผู้ประกอบการ โรงแรม A2 Resort อ.เมือง จ.ภูเก็ต
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการเรือเข้าร้องเรียนปัญหานักท่องเที่ยวลดลงหลังเกิดเหตุเรือล่ม ทำให้ขาดทุนหลาย 100 ล้าน
ขณะที่ผู้ประกอบการโรงแรมขนาดเล็กร้องเรียนว่ารัฐบาลบริหารงานแบบขาดความเข้าใจว่าการท่องเที่ยวภูเก็ตแบ่งเป็นหน้าไฮ กับหน้าโลว์ จึงสั่งจ่ายงบประมาณสร้างถนนช่วงหน้าไฮ ส่งผลกระทบกับนักท่องเที่ยว ทำให้เดินทางไม่สะดวก ฝุ่นละอองมากนักท่องเที่ยวเกิดความรำคาญ ดีใจที่พรรคไทยรักษาชาติเข้ามานำเสนอนโยบายที่เน้นการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยพัฒนาประเทศและการท่องเที่ยวด้วย
ด้านผู้ประกอบการแท๊กซี่สะท้อนว่ารัฐบาลขาดการบริหารจัดการที่ดี ทำให้การท่องเที่ยวย่ำแย่ เศรษฐกิจปีนี้ตกต่ำที่สุด ถ้ารัฐบาลนี้ยังอยู่ประชาชนก็ยิ่งตายเร็วขึ้น
ทั้งนี้ผู้ประกอบการประมงพาณิชย์และประมงพื้นบ้านร่ำไห้ บอกวันนี้รัฐบาลผ่านกฎหมายหลายฉบับที่ไม่ได้ถามความเห็นจากประชาชน ไม่ผ่านสภาที่มาจากการเลือกตั้ง ส่งผลกระทบให้ชาวประมงอาจล่มสลายได้ ซึ่งอาชีพประมงเป็นอาชีพที่สืบทอดมาจากพ่อแม่ กฎหมายมาทำให้ประมงพาณิชย์ขัดแย้งกับประมงพื้นบ้านเพราะคำจำกัดความที่กำกวม การแบ่งเขตให้พื้นที่ประมงพาณิชย์และพื้นบ้านทับซ้อนกัน แสดงให้เห็นว่าคนเขียนกฎหมายไม่รู้จริงและ สร้างความแตกแยกในพื้นที่
ร.ท.ปรีชาพล กล่าวว่า 4-5 ปีที่ผ่านมารัฐบาลออกกฎหมายโดยไม่ได้คำนึงถึงประชาชน เพราะขาดความใส่ใจเข้าใจไม่เคยฟังเสียงประชาชน เพราะรัฐบาลไม่ได้มาจากประชาชน ช้าง ม้า วัว ควายหิวยังร้องได้ แต่พี่น้องประชาชนหิว เดือดร้อนกลับร้องไม่ได้ กลายเป็นภัยความมั่นคงไปหมด ภูเก็ตเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพมาก ถ้าภูเก็ตยังไปไม่ได้ แล้วจังหวัดอื่นจะทำอย่างไร กฎหมายที่เขียนมาเป็นกฎหมายที่ไม่เอื้อให้ประชาชนทำมาหากินได้ การแก้ปัญหาประมงด้วยกฎหมายและอำนาจมีแต่จะทำให้เกิดปัญหาที่มากกว่า ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่าทุกคนรักประเทศ เพียงแต่รัฐบาลอาจจะมีความสามารถแค่นั้น
ขณะเดียวกันนายวรวัจน์กล่าวว่าปัญหาประมงไม่ใช่เรื่องซับซ้อน ขอเพียงประเทศกลับคืนสู่สภาพปกติ ต่างชาติจึงจะยอมเจรจาด้วย รัฐบาลของประชาชนเท่านั้นที่จะแก้ปัญหาได้
นอกจากนี้นายประภัสร์กล่าวว่ารัฐบาลมองเรื่องขนส่งมวลภูเก็ตใช้ค่าใช่จ่ายสูง จึงไม่ให้ความสำคัญ ทำให้ประเทศไทยเสียโอกาสไปเยอะมาก การพัฒนาจึงผิดรูปแบบ พัฒนาถนนก่อนขนส่งมวลชน แต่หากเลือกพรรค ทษช.เรามีบุคคลากรที่มีความพร้อม และมีความรู้ที่แท้จริง และเราจะมีระบบขนส่งมวลชนที่ตอบสนองกับเมืองท่องเที่ยว
ด้านนายจาตุรนต์ กล่าวว่าปัญหาประมงต้องศึกษาและรับฟังปัญหากันอย่างจริงจังและต้องเอากฎหมายที่เกี่ยวข้องมารื้อ และเจรจราต่อรองกับ EU แต่ปัญหาคือรัฐบาลต้องเป็นรัฐบาลฝั่งประชาธิปไตยก่อน
ส่วนการท่องเที่ยวที่สำคัญต้องทำเรียกความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยวกลับมาไม่ใช่ แก้ปัญหาแบบไม่จริงใจทำให้สูญเสียรายได้มหาศาล