“ธนาธร” ยันปลดล็อกเศรษฐกิจไทย ต้องยกเลิกอำนาจทุนผูกขาด

เมื่อวานนี้ (6 ธันวาคม 2561) ที่คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต จัดโครงการสัมมนาทางวิชาการประจำปีเรื่อง “การปฏิรูปและนโยบายเศรษฐกิจ ภายใต้รัฐบาลเลือกตั้ง” โดยมีตัวแทนจากนักการเมืองด้านเศรษฐกิจจากพรรคการเมืองต่างๆ มาวิเคราะห์คาดการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลก อนาคตทิศทางธุรกิจอุตสาหกรรม 2562 สู่นโยบายเศรษฐกิจของไทยภายใต้รัฐบาลหลังการเลือกตั้ง

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่กล่าวถึงแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทยว่า พรรคอนาคตใหม่ขอเสนอแนวทางในการพัฒนาประเทศไทยคือ ยกเลิกการผูกขาดทรัพยากรเศรษฐกิจจากกลุ่มอภิสิทธิ์ชน สร้างและพัฒนาอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีโดยคนไทยเพื่อคนไทย และการกระจายอำนาจให้คนในท้องถิ่น ให้แต่ละจังหวัดมีอำนาจในการจัดการและจัดสรรทรัพยากรของตัวเอง ทั้งนี้ การผูกขาดของกลุ่มทุนใหญ่ส่งผลต่อความล่าช้าในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ พรรคอนาคตใหม่จะปลดล็อกการผูกขาดของประเทศไทยในทุกอุตสาหกรรม เพราะกลุ่มทุนผูกขาดส่วนใหญ่สนับสนุนฝ่ายทหาร หากพิจารณาจะพบว่า กลุ่มทุนที่สนับสนุนทีมฟุตบอลอาร์มี่ ยูไนเต็ดกับทุนที่สนับสนุนโครงการประชารัฐนั้น เป็นกลุ่มทุนเดียวกัน ซ้ำร้ายกลุ่มทุนเหล่านี้เป็นศัตรูกับระบอบประชาธิปไตยเพราะสนับสนุนการรัฐประหาร

“ในภาคการเกษตรต้องเลิกให้ทุนเกษตรกรเพื่อไปซื้อปุ๋ยกับกลุ่มทุนผูกขาด เงินที่ชาวนาไปกู้เงินแทนที่จะได้เงินทุนกลับได้ปุ๋ยจากกลุ่มทุนใหญ่ ส่วนเหล้า สุรา สังคมไทยไม่สามารถแปรรูปได้ หากไม่ปลดปล่อยสุราในประเทศไทย อีก 10 ปี ภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ต้มเหล้าให้คนในท้องถิ่นกำลังจะหายไป พรรคอนาคตใหม่เห็นว่า กฎหมายการแข่งขันทางการค้าตอนนี้ทำให้เกิดการผูกขาดทางเศรษฐกิจ แล้วตอนนี้กลุ่มคนที่มีส่วนในการแก้ไขกฎหมายการแข่งขันทางการค้ากลับมาจากกลุ่มทุนใหญ่ทั้งนั้น แล้วอย่างนี้จะสามารถแก้ไขการผูกขาดการแข่งขันทางการค้าได้อย่างไร” หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าว

นายธนาธร กล่าวต่อว่า ตอนนี้คนจน ประชาชนในพื้นที่ไม่สามารถเข้าถึงทรัพยากรท้องถิ่นของตัวเองอีกต่อไป แต่คนที่ได้รับผลประโยชน์คือ กลุ่มทุนขนาดใหญ่ได้รับอภิสิทธิ์และประโยชน์สัมปทานจากโครงการของรัฐขนาดใหญ่ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นโครงการเขื่อน โครงการสัมปทานเหมืองแร่ต่างๆ เราต้องกลับมาพูดความจริงว่า เราไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้เลย หากพันธมิตรหรือกลุ่มอภิสิทธิ์ชน กลุ่มชนชั้นนำ มีอำนาจควบคุมโครงสร้างประเทศแล้วกดทับสังคมไทยไว้ หยุดการเจริญเติบโตของกลุ่มธุรกิจ คนรุ่นใหม่ไม่สามารถเติบโตหรือแม้แต่เข้าถึงทรัพยากรของประเทศได้ ดังนั้น หากเราไม่พูดเรื่องอภิสิทธิ์ชนกับการกดทับสังคมและตักตวงผลประโยชน์ให้กลับกลุ่มอภิสิทธิ์ชนอย่างตรงไปตรงมา เราไม่มีทางที่จะแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้ ไม่สามารถแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำได้เลย