“หมู พงษ์เทพ” ร่ายยาวเรื่อง “กัญชา” จวกกรมทรัพย์สินฯ อย่าเป็น กรมสูญสิ้นทางปัญญา!

พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ ร่ายยาวถึงเรื่อง กัญชา ที่เตรียมการเป็นพืชที่ถูกกฏหมายทางการแพทย์ และพูดถึงกรมทรัพย์สินทางปัญญา ที่อยากให้ปรับปรุง ปฏิรูป เสียที
จากกรณีที่ “น้าหมู” พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ ศิลปินเพลงเพื่อชีวิตรุ่นเก๋า ได้ออกมาโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยพูดถึงเรื่อง กัญชา ตั้งแต่สมัยก่อนที่สูบกันเป็นเรื่องปกติ รวมถึงจวก กรมทรัพย์สินทางปัญญาที่ไม่ได้ปิดกั้นให้บริษัทต่างประเทศ ที่อาจมาจดสิทธิบัตรกัญชาในไทย โดยระบุข้อความว่า

สมัยผมเป็นหนุ่ม การสูบกัญชาเป็นสิ่งปกติ คนทั้งบ้านทั้งเมืองก็สูบ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ หมอ ทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่สูปกัญชากันเป็นธรรมดา ยังเอาใส่แกงไก่ ใส่น้ำกั๊วยเตี๋ยวกินด้วย

อยู่ๆโดยไม่รู้สาเหต กัญชาก็กลายเป็นยาเสพติด ใครสูบ ใครมีไว้ ใครขาย ก็ติดคุก คนทั้งบ้านทั้งเมืองก็มึนงงสงสัย แต่ก็ได้แต่ทำการหลบๆซ่อนๆ ก็ได้แต่แอบนินทากันว่า คงเป็นเพราะมีบุหรี่จากอเมริกาที่มีสารเสพติดร้ายแรงกว่ากัญชามาขายในบ้านเรา เลยทำให้กัญชาต้องถูกกีดกันออกจากเส้นทาง

ไม่กี่วันต่อมาบุหรี่ มาร์โบโร่ พาลม่อน และอีกหลายยี่ห้อของอเมริกาก็เข้ามาขายเต็มบ้านเต็มเมือง คนที่อมควันกัญชาก็ต้องหันมาอมควันบุหรี่นอกแพงๆ

แต่ในที่สุดวันนี้ก็พิสูจน์แล้วว่า กัญชาเป็นพืชสมุนไพรที่มีประโยชน์ จนประเทศที่กีดกันกัญชาก็หันมาขายกัญชาให้ผู้คนได้สูบกันอย่างเสรี เช่นอเมริกา และอีกหลายประเทศในยุโรป ในเพื่อนบ้านเราเขาก็ปลูกและซื้อขายกันมานานแล้วเช่นที่ เขมร ลาว ยังไงบ้านเราก็ยังทำท่าเกรงกลัวกัญชา เลยให้แค่เอากัญชามาทำยา แต่ก็ยังห้ามชาวบ้านปลูกและสูบ (ไม่รู้กลัวอะไร) ก็ยังดี ถือว่ายังทันสมัยอยู่บ้าง

แต่ข่าวดีที่กัญชาจะถูกนำมาใช้ (เป็นยา) ออกมาไม่กี่วัน ก็มีข่าวแปลกประหลาดออกมาว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญาได้อนุญาตให้บริษัทของต่างประเทศ มาจดสิทธิบัตรว่าเป็นเจ้าของสารในต้นกัญชา (ทั้งๆที่สารในพืชตามธรรมชาติ ไม่สามารถจดสิทธิบัตรได้)

ยุ่งละสิ ถ้าเราเอากัญชามาทำยา ก็ต้องไปซื้อลิขสิทธิ์กับบริษัทที่จดสิทธิบัตรไว้ ถ้าเขาไม่ขายให้ เราก็ทำยาไม่ได้ หรือเอาไปทำอะไรไม่ได้ แต่ถ้าเขาขายแพงๆเราก็คงไม่มีปัญญาไปซื้อ กรรมเวรๆๆๆๆ ทำไมหน่วยงานระดับนี้จึงไม่รู้อะไรจดได้ อะไรจดไม่ได้

แต่ผมก็ไม่แปลกใจหรอกครับ ที่กรมทรัพย์สินทางปัญญาจะเป็นแบบนี้ เพราะที่ผ่านมามีหลายรายการทีทรัพย์สินทางปัญญาของบ้านเราถูกต่างชาติเอาไปจดสิทธิบัตรเป็นเจ้าของ ไม่ว่าจะเป็นสมุนไพร ผลไม้ สิ่งประดิษฐ์คิดค้น ศิลปวัฒนธรรม แม้แต่เรื่องลิขสิทธิ์เพลง ผมก็เคยขึ้นโรงขึ้นศาลสู้กับบริษัทขายเพลงกรมทรัพย์สินทางปัญญาก็ไม่มีบทบาทอะไรเลย

ปล่อยให้ผู้สร้างสรรค์ สู้ไปตามยถากรรม (ทั้งๆที่ทางสากลเขากำหนดว่า ลิขสิทธิ์ในงานสร้างสรรค์ เป็นของผู้คิดสร้างสรรค์ โดยธรรมชาติ ผู้อื่นไม่มีสิทธิ์เป็นเจ้าของผลงานนั้นได้) ก็ได้แต่รอดูและภาวนาให้กรมทรัพย์สินทางปัญญา ปรับปรุง ปฏิรูป ให้เป็นองค์กรที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ

ถ้าไม่เช่นนั้น “กรมทรัพย์สินทางปัญญา” ก็คงเป็น “กรมสูญสิ้นทางปัญญา”