สรรพสามิตจ่อขึ้นภาษียาเส้นรับมือบุหรี่มวนขึ้นราคา

นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า กรมอยู่ระหว่างการพิจารณาปรับเพิ่มภาษียาเส้นให้สูงขึ้น เนื่องจากพบว่าหลังจากที่กรมสรรพสามิตปรับโครงสร้างภาษียาสูบทำให้กลุ่มผู้สูบบางส่วนหันไปสูบยาเส้น เนื่องจากมีราคาถูก เพราะภาษีต่ำกว่าบุหรี่มวน ดังนั้นอาจจำเป็นต้องปรับภาษียาเส้นให้สูงขึ้น

“แนวโน้มคนสูบยาเส้นเพิ่มขึ้น เพราะอัตราภาษีที่ห่างกันเกินไประหว่างบุหรี่มวนและยาเส้น โดยในปีหน้ากรมจะปรับขึ้นภาษีบุหรี่ตามมูลค่า 40% ของราคาขายปลีกแนะนำ จากขณะนี้บุหรี่ต่ำกว่า 60 บาทเก็บ 20% ของราคาขายปลีกแนะนำ และบุหรี่สูงกว่า 60 บาท เก็บภาษีตามมูลค่า 40% ของราคาขายปลีกแนะนำ ทำให้บุหรี่มวนเสียภาษีสูงขึ้น ราคาต้องปรับขึ้น ซึ่งกรมกังวลว่าจะทำให้คนสูบยาเส้นมากขึ้น”นายพชร กล่าว

นายพชรกล่าวว่า ขณะนี้พบว่าภาษียาเส้นจัดเก็บมากขึ้น แสดงให้เห็นว่าคนมาสูบยาเส้นมากขึ้น ดังนั้นจึงจำเป็นต้องปรับขึ้นภาษีบ้าง ส่วนจะขึ้นเมื่อไหร่นั้นขอพิจารณาช่วงเวลาที่เหมาะสมอีกครั้ง นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ค้ารายใหญ่ทั้งไทยและต่างประเทศ หันมาผลิตยาเส้น เพื่อเข้าไปเล่นในตลาดล่างหลายราย พบว่ายาเส้นมีราคาขายในระดับ 5-30 บาทต่อซอง ในขณะที่บุหรี่มวนมีราคา 60-100 บาทต่อซอง เมื่อนักสูบมองว่าบุหรี่แพงหันไปสูบยาเส้นแทน โดยกรมยังยืนว่าว่าจะเก็บภาษียาสูบตามแผนเดิม แม้ทำให้ราคาบุหรี่ในไทยปรับสูงขึ้น แต่เป็นแนวทางที่ทั้งกระทรวงการคลัง และกระทรวงสาธารณสุขเห็นชอบไว้

นายพชรกล่าวว่า นอกจากนี้กรมมีแนวคิดเข้าไปกำกับมาตรฐานสินค้าของสินค้าสรรพสามิตบางอย่าง ที่ไม่มีหน่วยงานควบคุม บุหรี่ ยาเส้น ซิกาแรต เหล้า เบียร์ โดยกำหนดมาตรฐานคือบริโภคไปแล้วต้องไม่ตาย และต้องไม่มีส่วนผสมที่เป็นอันตรายหรือเป็นพิษ เช่น เหล้าบางยี่ห้อแอบผสมเมทิลแอลกอฮอล์ เพราะทำให้ต้นทุนถูก แต่ถ้าดื่มไปอาจจะตายได้ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องประกาศเป็นมาตรฐานออกมา ถ้ามาตรฐานไม่ผ่านห้ามขาย โดยยืนยันว่ากรมสรรพสามิตมีอำนาจที่จะดำเนินการเรื่องนี้ และขณะนี้จัดตั้งกองกำกับและตรวจสอบทางเทคนิค ขึ้นมาทำหน้าที่ดูแลกำกับและดูแลมาตรฐานสินค้าสรรพสามิตเป็นการเฉพาะ

นายพชรกล่าวถึงบุหรี่ไฟฟ้าว่า ขณะนี้บุหรี่ไฟฟ้ายังถือเป็นของที่ผิดกฎหมายห้ามนำเข้า และห้ามจำหน่าย ที่ผ่านมาผู้ที่มีบุหรี่ไฟฟ้าครอบครองโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวถูกจับเพราะมองว่านำเข้าบุหรี่ไฟฟ้าแม้จะนำมาสูบเองก็ตาม ดังนั้นมีการตั้งคณะทำงานมีตัวแทนจากกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงสาธารณสุข กรมสรรพสามิต เพื่อดูว่าจะแก้ปัญหาดังกล่าวอย่างไร ในส่วนของกรมนั้นไม่มีปัญหาถ้าทั้งกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงสาธารณสุขเห็นชอบให้นำเข้า กรมพร้อมจะเข้าไปเก็บภาษีจากบุหรี่ไฟฟ้า ถ้าดูนโยบายเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าในต่างประเทศพบว่าหลายประเทศให้ดำเนินการถูกกฎหมาย เช่น อังกฤษ สหรัฐอเมริกา เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น