ผ่าคดี : ฆ่าแมวควักไส้ โยงดาร์กเว็บ-บิตคอยน์ ตร.ตั้งข้อหา “ดีเจซัน” เจ้าตัวโต้-ขอสู้ชั้นศาล

เป็นเรื่องร้อนขึ้นมาทันที เมื่อกลุ่มคนรักสัตว์โร่แจ้งความถึงโรงพัก

เพื่อขอให้ดำเนินคดีกับดีเจสาว ที่ติดต่อขอรับแมวไปเลี้ยง

แต่แทนที่เจ้าแมวจะได้บ้านใหม่ อยู่สุขสบาย กลับตายอย่างไม่ทราบสาเหตุ

เมื่อติดต่อเพื่อเจรจาถามไถ่ กลับได้รับซากแมวที่ถูกคว้านอวัยวะภายในไปจนหมด

จนเชื่อว่าจะเกิดการทารุณกรรมสัตว์

ก่อนขยายเรื่องราวใหญ่โตไปถึงเรื่องการทรมานสัตว์โชว์ในเว็บไซต์ต้องห้าม เพื่อแลกบิตคอยน์หรือเงินดิจิตอล

รวมทั้งข้อสงสัยว่าเหตุใดดีเจสาวคนนี้ถึงติดต่อขอรับเลี้ยงแมวถึง 29 ตัว

นำไปสู่การรวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมแจ้งความข้อหาทารุณกรรมสัตว์

โดยที่เจ้าตัวก็เข้ามอบตัวพร้อมยื่นประกันตัวออกไปต่อสู้คดี

ข้อเท็จจริงจะเป็นอย่างไร อีกไม่นานคงกระจ่าง

ทาสแมวลุยแจ้งจับดีเจ

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 19 ตุลาคม เมื่อ น.ส.อิศราภรณ์ สมุทรกลิน อายุ 29 ปี เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.เพชรเกษม เพื่อนัดเจรจากับ น.ส.วรารัตน์ กระแสร์ อายุ 30 ปี หรือดีเจซัน ดีเจเปิดเพลงอิสระตามผับ เจ้าของเฟซบุ๊ก “WARARA KRASAE” ที่ติดต่อเพื่อขอลูกแมวไปอุปการะผ่านเพจหาบ้านให้สัตว์

โดย น.ส.อิศราภรณ์เปิดเผยว่า มีแมวจรจัดที่ทำหมันเรียบร้อยอยู่ในความดูแล 4 ตัว ซึ่งก็โพสต์เพื่อหาคนรับเลี้ยง ต่อมา น.ส.วรารัตน์ติดต่อมาผ่านช่องทางแชต ระบุว่าขอแมวเพศผู้ หางยาว มีพฤติกรรมเรียบร้อย ไม่ส่งเสียงครวญครางน่ารำคาญ เพราะเกรงจะถูก รปภ.คอนโดมิเนียมจับได้

จึงเลือกแมวเพศผู้อายุ 1 เดือน 2 สัปดาห์ให้ไป นัดหมายรับแมวกันที่คลินิกรักษาสัตว์แห่งหนึ่งย่านสุขาภิบาล 1 ในช่วงเย็น จากนั้นก็พยายามติดต่อถามว่าแมวเป็นอย่างไรบ้าง แต่ น.ส.วรารัตน์ไม่รับสาย ไม่อ่านแชต อ่านไลน์ จึงตัดสินใจโทรศัพท์ไปหากลางดึก

เมื่อได้คุยกับ น.ส.วรารัตน์ กลับบอกว่าตนเข้าใจผิด เพราะคนที่รับแมวไปเป็นคนอื่น จึงต้องขู่ว่าที่คลินิกมีกล้องวงจรปิดบันทึกภาพเป็นหลักฐาน น.ส.วรารัตน์จึงยอมรับ แต่อ้างว่านำแมวไปให้เพื่อนเลี้ยงต่อ เพราะตัวเองเป็นภูมิแพ้

เมื่อได้ฟังก็รู้สึกผิดปกติ จึงพยายามโทรศัพท์ไปสอบถามความเป็นอยู่ของแมวหลายครั้ง และนำหน้าเฟซบุ๊กของ น.ส.วรารัตน์ขึ้นเตือนภัยตามเพจคนรักหมา-แมว ทำให้ น.ส.วรารัตน์ไม่พอใจ และขู่จะฟ้องร้อง

จนกระทั่งกลางดึกวันที่ 19 ตุลาคม จึงนัดหมายให้ น.ส.วรารัตน์มาเจรจาต่อหน้าพนักงานสอบสวน สน.เพชรเกษม ซึ่ง น.ส.วรารัตน์นำซากแมวห่อใส่ถุงขยะสีดำมามอบให้พนักงานสอบสวน อ้างว่าถูกสุนัขกัด ก่อนจะเดินทางกลับ

แต่เมื่อเปิดดูพบซากแมวมีลักษณะคล้ายถูกทารุณกรรม มีบาดแผลคล้ายถูกของมีคมกรีดตามร่างหลายแห่ง อวัยวะภายในถูกคว้านออกไปหมด สงสัยว่าจะเป็นการทารุณกรรมโชว์ตามเว็บไซต์ใต้ดินหรือดาร์กเว็บเพื่อแลกบิตคอยน์

นอกจากนี้ยังมีหลักฐานว่า

ขณะที่ สพญ.ภัทรนันท์ สัจจารมย์ สัตวแพทย์ประจำคลินิกบ้านสัตว์เลี้ยง และสัตวแพทย์ประจำวอตช์ด็อกไทยแลนด์ระบุว่า จากการตรวจสอบซากแมวที่ตายในเบื้องต้นแล้วพิสูจน์ได้ว่าเป็นการตายผิดธรรมชาติ แมวถูกกระทำอย่างผิดธรรมชาติหลายแห่ง เช่น มีรอยถูกกระแทก อวัยวะภายในช่องท้อง ทั้งหัวใจ ปอด และลำไส้ถูกนำออกจากซากไปทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีกล้ามเนื้อขาหลังคล้ายถูกของมีคมเลาะออกไป

ยืนยันว่าการตายของแมวตัวนี้ไม่ใช่ถูกรถชนเพราะอุบัติเหตุ หรือถูกสัตว์ใหญ่กว่าขบกัดตามที่ผู้ต้องสงสัยกล่าวอ้างแน่นอน

ตร.แจ้งข้อหาทารุณสัตว์

ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับแจ้งความก็เดินหน้าตรวจสอบข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐาน โดย พ.ต.ท.สุนทร มาลาเวช รอง ผกก.สส. สน.เพชรเกษม นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.เพชรเกษม พร้อมเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์และเจ้าหน้าที่วอตช์ด็อกไทยแลนด์ เข้าตรวจค้นบ้านพักย่านทวีวัฒนา ซึ่งเป็นที่พักอาศัยของบิดาและมารดา น.ส.วรารัตน์ หรือดีเจซัน

แต่ไม่พบหลักฐานหรืออุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการทารุณกรรมสัตว์

ก่อนเข้าตรวจค้นคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งย่านวงเวียนใหญ่ ซึ่งเป็นที่พักปัจจุบันของ น.ส.วรารัตน์ พบเพียงกระบะทรายและอาหารแมว ซึ่งจากการสอบสวนดีเจซัน ยืนยันว่าแมวหลุดจากห้องพักไปถูกสุนัขกัดตาย จากนั้นจึงมาพบซากภายหลัง

พร้อมนำซากแมวที่ได้รับจากดีเจซันส่งพิสูจน์ และตรวจดีเอ็นเอที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน

นอกจากนี้ยังประสาน บก.ปอท.ให้ตรวจสอบเกี่ยวกับดาร์กเว็บ ว่ามีที่มาอย่างไร และเกี่ยวพันกับดีเจซันตามที่มีการตั้งข้อสงสัยไว้หรือไม่

ซึ่งการตรวจสอบรอบแรกก็ไม่พบหลักฐานใดๆ ที่ชี้ชัดว่ามีการทารุณกรรมสัตว์

จึงเข้าตรวจสอบรอบ 2 ครั้งนี้

พร้อมยึดทั้งโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก ซีพียูคอมพิวเตอร์ รวมถึงหนังสือวรรณกรรมภาษาญี่ปุ่นรวมทั้งสิ้น 16 เล่มมาตรวจสอบ

และจากการสอบถามล่ามผู้เชี่ยวชาญภาษาญี่ปุ่น พบว่ามีหนังสือ 2 เล่มที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการทรมานสัตว์และคน ซึ่งเชื่อมโยงกับข้อหากระทำการอันเป็นการทารุณกรรมสัตว์โดยไม่มีเหตุอันสมควร

จึงให้ออกหมายเรียกให้มาพบพนักงานสอบสวน เพื่อสอบสวนว่ามีอะไรที่ยังปิดบังอยู่หรือไม่

อย่างไรก็ตาม พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น รรท.ผบช.น. ที่ลงมาติดตามคดีนี้ด้วยตัวเอง ระบุว่า กำชับให้ สน.เพชรเกษมรวบรวมพยานหลักฐานให้ได้มากที่สุด และตรวจสอบความน่าเชื่อถือว่าเป็นสถานที่ก่อเหตุ ต้องอาศัยหลักนิติวิทยาศาสตร์

ส่วนหนังสือต่างประเทศ 16 เล่มที่มีเนื้อหารุนแรงก็เป็นส่วนหนึ่งในการประกอบให้ผู้พิจารณาเห็นว่าเจ้าของหนังสือมีจิตใจเป็นอย่างไร แต่แค่มีหนังสือไม่ได้แปลว่าผิด ต้องรอผลการตรวจสอบเนื้อหาจากการแปล

รวมทั้งข้อมูลเรื่องดาร์กเว็บ ก็ต้องพิจารณาให้ละเอียดว่ามีจริงหรือไม่ ผู้ต้องสงสัยมีความผิดอย่างไร ที่อ้างแลกบิตคอยน์นั้น พฤติกรรมเป็นอย่างไร กระทำกี่ครั้ง ได้มาแล้วนำไปใช้อย่างไร

ยืนยันให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ปฏิเสธข้อหา-สู้ชั้นศาล

อย่างไรก็ตาม หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายเรียก ฝ่ายดีเจซันก็ให้พ่อเข้าพบพนักงานสอบสวน ระบุว่ามีอาการเครียดอย่างมาก แพทย์สั่งให้พักผ่อน จึงต้องเลื่อนการพบเจ้าหน้าที่

จนกระทั่งวันที่ 28 ตุลาคม ดีเจซันพร้อมครอบครัวก็เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อรับทราบข้อกล่าวหากระทำการอันเป็นการทารุณกรรมสัตว์โดยไม่มีเหตุอันสมควร ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

โดยดีเจซันปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และขอไปให้การในชั้นศาล จึงปล่อยตัวกลับโดยไม่ต้องประกันตัว ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนนัดส่งตัวฟ้องศาลในวันที่ 29 ตุลาคม ที่ศาลแขวงธนบุรี

พ.ต.อ.วุฒิชัย ไทยวัฒน์ ผกก.สน.เพชรเกษม เปิดเผยว่า ศาลแขวงธนบุรีอนุมัติให้ผู้ต้องหาประกันตัวระหว่างผัดฟ้องฝากขัง วงเงินประกัน 40,000 บาท

จากนี้ตามกฎหมายพนักงานสอบสวนและพนักงานอัยการมีเวลารวบรวมพยานหลักฐานอีกไม่เกิน 30 วัน ก่อนส่งสำนวนฟ้องต่อศาล

ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลการชันสูตรซากแมวจากคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน รวมถึงผลตรวจดีเอ็นเอจากขนแมวและคราบเลือดที่เก็บได้จากบ้านพักของผู้ต้องหา

“จากการรวบรวมพยานหลักฐาน คดีนี้ผู้กระทำผิดยังมีเพียงแค่คนเดียว ส่วนที่มีข้อมูลว่า ผู้ต้องหาเคยขอรับบริจาคแมวมาเลี้ยงก่อนหน้าถึง 27 ตัวนั้น จนถึงขณะนี้ยังไม่มีผู้ใดมาแจ้งความ หรือแสดงตัวยืนยันเพิ่มเติมแต่อย่างใด”

ส่วนหนังสือภาษาญี่ปุ่น 2 เล่มนั้น ทางพนักงานสอบสวน สน.เพชรเกษมได้ทำการแปลหนังสือดังกล่าวมาประกอบสำนวนแล้ว ไม่สามารถเปิดเผยได้เนื่องจากเป็นพยานหลักฐานทางคดี ทั้งนี้ ต้องรอการสรุปคดีดังกล่าวให้ชัดเจนก่อนจึงจะสามารถสรุปผลการกระทำผิดได้

รอพิสูจน์กันในชั้นศาลต่อไป