นายอลงกรณ์ พลบุตร ผู้สมัครชิงหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนวันนี้(12ตุลาคม)ว่าจากการลงพื้นที่ 3 จังหวัดภาคอีสาน ขอนแก่น กาฬสินธุ์ และสกลนคร เมื่อวันที่11ตุลาคมที่ผ่านมา ได้รับการต้อนรับจากพี่น้องอีสานอย่างอบอุ่นเหมือนครอบครัวเดียวกันและยังแสดงออกถึงการสนับสนุน”ประชาธิปัตย์ยุคใหม่และแนวทางการเมืองสีขาวอย่างตรงไปตรงมาไม่อ้อมค้อมทั้งที่เป็นการเดินสายภาคอีสานครั้งแรกถือเป็นสัญญานที่ดีที่พี่น้องอีสานเต็มใจรับ”พรรคประชาธิปัตย์”และจะร่วมกันสร้างจุดเปลี่ยนอีสานด้วยแนวทางการเมืองสีขาวและกฎเหล็ก5ข้อโดยตนได้กล่าวปราศรัยแสดงจุดยืนนโยบายวิสัยทัศน์และมุมมองการบริหารพรรคและยืนยันความพร้อมนำพาประชาชนและประเทศออกจากการเมืองยุคเก่าสู่อนาคตที่ดีกว่า

“ที่ประทับใจคือแม่ครัวให้ผมโชว์ฝีมือตำแซ่บส้มตำ สไตล์อีสานจ๋า จนครกแทบแตก แล้วล้อมวงปั้นข้าวเหนียว จิ้มแจ่ว ถามสารทุกข์สุกดิบ บนเถียงนาประสาพี่ๆน้องๆได้สัมผัสชีวิตคนอีสานแบบติดดินกันเอง”
การลงพื้นที่ 3 จังหวัดอีสานครั้งนี้ ยังได้พูดคุยและให้กำลังใจอดีตส.ส. ประธานสาขาพรรคโดยชี้ว่า“ไพรมารี่”คือจุดเปลี่ยนของพรรคประชาธิปัตย์ที่ท่านหัวหน้าได้ริเริ่มเพราะเป็นครั้งแรกที่เราจะสร้างพรรคการเมืองของประชาชนอย่างแท้จริงและขอให้สานต่อปฏิรูปพรรคที่ผมเคยริเริ่มผลักดันตั้งแต่ปี2556พร้อมกับเล่าถึงที่มาของกลุ่มประชาธิปัตย์ยุคใหม่ โดยการนำของผม ผู้สมัครชิงหัวหน้าพรรคหมายเลข 3 ด้วยสโลแกนแสดงถึงการผนึกกำลังครั้งสำคัญนั่นคือ One Democrat One Family อันหมายถึงสร้างประชาธิปัตย์ให้เป็นหนึ่งและเป็นหนึ่งเดียวในความเป็นเอกภาพ

สมาชิกพรรคถามด้วยว่า ประชาธิปัตย์แพ้ในอีสานมาตลอดแล้วจะทำอย่างไรให้บรรลุเป้าหมาย คำตอบคือ ยุทธศาสตร์อีสานใหม่ขับเคลื่อนด้วยแนวทางการเมืองสีขาว 4 5 6 คือ 4 ปฏิรูปหมายถึงการปฏิรูปพรรค 4 ด้าน สร้างศักยภาพใหม่ 1)ปฏิรูปความเป็นผู้นำพรรคทุกระดับ2)ปฏิรูปการบริหารจัดการ 3)ปฏิรูปจุดยืนวิสัยทัศน์และนโยบาย และ4)ปฏิรูปวัฒนธรรมองค์กรยุคใหม่

ส่วน5กฏเหล็กคือการสร้างจุดเปลี่ยนพรรคการเมืองไทยและประเทศไทย 1)เลือกตั้งสุจริต ไม่ทุจริตเลือกตั้ง 2)หาเสียงสร้างสรรค์แข่งขันนโยบายความสามารถ ไม่ใส่ร้ายป้ายสีสร้างความเกลียดชัง 3)รับทุนคุณธรรม ไม่รับทุนสามานย์ต่างตอบแทน 4)ไม่คอรัปชั่นฉ้อราษฎร์บังหลวง และ5)ยึดมั่นระบบรัฐสภาในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

สำหรับ 6ยุทธศาสตร์ สร้างศรัทธาประชาชนสู่ชัยชนะที่ยั่งยืน 1) ยึดมั่นอุดมการณ์พรรค 10 ข้อ 2)พัฒนาสู่สถาบันทางการเมืองของประชาชน 3)เป็นผู้นำการเมืองสีขาวด้วยภาวะผู้นำที่เด็ดเดี่ยวและเด็ดขาด 4)ยกระดับพรรคสู่องค์กรทันสมัย 4.0 “ดิจิทัล ประชาธิปัตย์ (Digital Democrat) 5)สร้างคลื่นลูกใหม่ คนรุ่นใหม่ วัยดี (New Gen D) และ 6)สร้างนโยบายและวิสัยทัศน์แบบติดดิน ติดดาวติดโลก ติดรากหญ้า
“การเมืองสีขาวคือการเมืองยุคใหม่ แม้หลายคนได้ยินแล้ว อาจจะมองว่าเหมือนกับความฝันที่เป็นไปไม่ได้ แต่ผู้นำคือคนที่ทำให้ความเป็นไปไม่ได้เป็นความเป็นไปได้ แม้ยากปานใด
ผมพร้อมแล้ว ที่จะเป็นผู้นำ สร้างความฝันให้เป็นจริง

ภาคอีสานเป็นภาคที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดมีประชากรมากที่สุดและมีคนอีสานที่แกร่งที่สุดแต่คนในเขตชนบทส่วนใหญ่ยังยากจนด้อยโอกาสแม้ทุกพรรคจะพยายามช่วยกันพัฒนามาอย่างยาวนาน ดังนั้นเราต้องมียุทธศาสตร์อีสานยุคใหม่”โดยไม่ลืมสานงานต่อก่องานใหม่จากผลงานดีๆของรัฐบาลในอดีตหรือปัจจุบันต้องทำต่อเช่นโครงการโขงชีมูลในอดีตของพรรคประชาธิปัตย์โดยท่านประจวบ ไชยสาส์นก็จะยกระดับเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์อีสานยุคใหม่ผสมผสานกับโครงการพัฒนาแหล่งน้ำของทุกรัฐบาลทุกพรรคในอดีตถึงรัฐบาลปัจจุบันมาพัฒนาใหม่ให้ทันสมัยใช้เทคโนโลยีใหม่ๆแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำสร้างพื้นที่เศรษฐกิจใหม่ที่อุดมสมบูรณ์่ให้คนอีสานมีพื้นที่ชลประทานไม่น้อยกว่า80%ของพื่นที่เกษตร และถ้าไม่มีที่ดินทำกินจะปฏิรูปที่ดินและจัดรูปที่ดินใหม่ทั้งภาคอีสาน ชาวอีสานจะได้ยืนอย่างยั่งยืน ตนจะพัฒนาภาคอีสานสู่อีสานยุคใหม่ทั้งด้านการเมืองเศรษฐกิจสังคมและคุณภาพชีวิตการเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยการคอรัปชั่นสร้างอีสานยุคใหม่ไม่ได้อดีตที่ผ่านมาหลาย10ปีได้พิสูจน์แล้ว การเมืองสีขาวเท่านั้นจึงจะทำได้

สำหรับสัปดาห์หน้าจะเดินสายพบสมาชิกพรรคสาขาพรรคอดีตส.ส.และผู้สนับสนุนในภาคตะวันออกและภาคเหนือก่อนลงภาคใต้ต่อไป