‘โอ๊ค’ ไม่กังวล กำลังใจแน่น ก่อนเข้าฟังคำสั่งอัยการ คดีทุจริตปล่อยกู้กรุงไทย

จากกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สอบสวนคดีการฟอกเงินที่เกี่ยวกับการอนุมัติสินเชื่อโดยมิชอบของกลุ่มผู้บริหารธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ให้กับกลุ่มธุรกิจเครือข่ายกฤษดามหานคร ที่มีรายชื่อ โอ๊ค พานทองแท้ บุตรนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และพวกรวม 4 คน อยู่ในกลุ่มผู้ร่วมกระทำผิดด้วยนั้น โดยคดีได้ถูกส่งยังพนักงานอัยการหลังทำการสรุปสำนวนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2560 ที่ผ่านมา

เมื่อเวลา 09.20 น. วันที่ 10 ตุลาคม ที่สำนักงานอัยการสูงสุด นายพานทองแท้ ชินวัตร หรือโอ๊ค พร้อมนางพินทองทา คุณากรวงศ์ และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร น้องสาว เดินทางมาพร้อมกันด้วยรถตู้เบนซ์ จอดที่หน้าอาคารสำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก เพื่อเตรียมตัวขึ้นไปพบอัยการสำนักงานคดีพิเศษ 4 ที่ชั้น 11 ในการฟังคำสั่งคดีว่าจะสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องในคดีที่ถูกกล่าวหาร่วมกันฟอกเงินจากการทุจริตปล่อยกู้ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ให้กับกลุ่มธุรกิจเครือข่ายกฤษดามหานคร

โดยวันนี้ มีแกนนำและสมาชิกพรรคเพื่อไทย เดินทางมาร่วมให้กำลังใจจำนวนมาก อาทิ นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษาทางกฎหมายของอดีตนายกฯทักษิณ นายชูศักดิ์ ศิรินิล นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล หรือเดียร์ บุตรสาวของ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง นายภูมิธรรม เวชยชัย ว่าที่เลขาธิการพรรค นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ทีมงานฝ่ายกฎหมาย และนายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ หากอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องคดี นายพานทองแท้ กับพวกจะต้องถูกนำตัวไปยื่นฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถนนนครไชยศรี

ขณะที่ก่อนขึ้นไปพบกับอัยการ นายพานทองแท้ได้ตอบคำถามนักข่าวด้วยสีหน้าสดใสว่า “ไม่มีความกังวล ได้อยู่ครับ” ด้านน้องสาวที่ยืนให้กำลังใจข้างๆ ตลอดเวลาก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “กำลังใจดี”

อย่างไรก็ตาม นายนพดลกล่าวว่า ไม่ได้ดูแลเรื่องในคดีนี้ให้เพราะเข้าใจว่ามีทนายความดูแลอยู่แล้ว แต่ขั้นตอนหลังจากนี้ หากอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องแล้ว จะต้องพาตัวผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 3 คนไปส่งฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ฝั่งจำเลยเองก็มีสิทธิที่จะยื่นประกันตัวต่อศาล ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาลว่าจะมีคำสั่งอย่างไร