ศาลสั่งจำคุก ‘ซินแสโชกุน’ 4,355 ปี! คดีฉ้อโกงผู้เสียหายกว่า800คน หลอกว่าจะให้ไปญี่ปุ่น พร้อมสั่งชดใช้51ล้าน ปรับอีก435ล้าน

ศาลสั่งจำคุกซินแสโชกุน 4,355 ปี คดีฉ้อโกงหลอกผู้เสียหายกว่า 800 คน สมัครสมาชิกซื้อผลิตภัณฑ์แลกได้รับสิทธิ์บินไปญี่ปุ่น พร้อมสั่งปรับให้ชดใช้เงินคืนผู้เสียหาย 51 ล้านบาท และสั่งปรับบริษัทกว่า 435 ล้านบาท

ศาลอาญาถนนรัชดาภิเษก นัดฟังคำพิพากษาในคดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นางสาว พสิษฐ์ อริญชย์ลาภิศ หรือ “ซินแส โชกุน” กับพวก รวม 10 คน เป็นจำเลยในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน / ซ่องโจร / นำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ / นำเข้าสินค้าโดยไม่ชำระภาษีศุลกากร / ความผิดตาม พ.ร.บ.อาหารฯ จากกรณีเมื่อปี 2560 จำเลยได้ร่วมกันชักชวนผู้เสียหายรวม 871 คน ผ่านทางเฟซบุ๊ก และไลน์กลุ่มให้มาสมัครเป็นสมาชิกผลิตภัณฑ์ อาหารเสริมยี่ห้อหนึ่ง โดยมีการโฆษณาชักชวนให้จ่ายเงินคนละ 8-9 พันบาท เพื่อแลกกับสิทธิ์ในการพาไปท่องเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่น แต่เมื่อถึงเวลากลับมีผู้เสียหายจำนวนมากไม่ได้เดินทางไปตามที่มีการโฆษณาเชิญชวน

โดยศาลได้พิเคราะห์จากพยานหลักฐานแล้วเห็นว่า คดีนี้ผู้ที่เข้าข่ายกระทำผิดชัดเจนมีเพียงซินแสโชกุน / นางสาวทัศย์ดาว สมัครกสิกรรณ์ ซึ่งเป็นแฟนสาวและเลขาของซินแสโชกุน / นางพารินธรญ์ หงษ์หิรัญ ดัคกอร์ ซึ่งเป็นผู้ดูแลสมาชิกบริษัท และนิติบุคลบริษัท เวลท์เอเวอร์ จำกัด ในความผิดฐานร่วมกันกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน / ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ / ความผิดตาม พ.ร.บ.อาหาร โดยศาลพิพากษาจำคุกจำเลยที่เป็นบุคคลตามกระทงความผิด 871 กระทง คนละ 4,355 ปี ก่อนปรับลดเหลือคนละ 20 ปี ซึ่งเป็นอัตราโทษสูงสุดที่กฎหมายกำหนด ส่วนนิติบุคคลศาลสั่งปรับกระทงละ 5 แสนบาท รวมเป็นเงิน 435 ล้าน 5 แสนบาท และสั่งปรับเพิ่มซินแสโชกุนและนิติบุคคลบริษัทอีกรายละ 2 หมื่นบาท นอกจากนี้ยังสั่งให้ทั้งหมดร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายให้ผู้เสียหายทั้ง 871 คน รวมเป็นเงิน 51 ล้านบาทเศษ พร้อมดอกเบี้ย 7.5 ต่อปี ส่วนข้อหาอื่นๆ พิจารณาแล้วพยานหลักฐานยังไม่ชัดเจน หรือเข้าองค์ประกอบความผิดจึงสั่งให้ยก ส่วนจำเลยที่เหลือซึ่งส่วนใหญ่เป็นเครือญาติของซินแสโชกุจและลูกจ้างบริษัท พบว่าไม่มีส่วนในการชักจูงให้ผู้เสียหายสมัครสมาชิก หรือมีอำนาจหน้าที่ในบริษัทโดยตรง จึงสั่งยกฟ้อง