เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า กรณีกลุ่มสามมิตรระบุจะเคลื่อนไหวน้อยลงนั้น สิ่งที่กลุ่มสามมิตรได้ดำเนินการเคลื่อนไหว หากผิดกฎหมาย ก็ถือว่าความผิดสำเร็จไปแล้วหรือไม่ ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ว่าเดินแรง หรือเดินเบา แต่อยู่ที่ว่าเป็นการกระทำความผิดหรือไม่ การบอกว่าจะเคลื่อนไหวน้อยลงนั้น ไม่แน่ใจว่ามาจากสาเหตุใดกันแน่ หรือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยังไม่ส่งสัญญาณชัดเจนว่าจะลง หรือไม่ลงเลือกตั้งหรือไม่ และถ้าลงเลือกตั้ง ก็ยังไม่ชัดว่าจะใช้บริการกลุ่มใด หรือพรรคใดมาสนับสนุนหรือไม่

“ขณะนี้เริ่มมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์หนาหูขึ้นเรื่อยๆ ว่า การเดินสายดูดอดีต ส.ส.และทำกิจกรรมคู่ขนานกับรัฐบาล คสช.ของกลุ่มสามมิตรนั้น ไม่ได้ต้องการให้มาช่วยเป็นเครือข่ายสนับสนุนทางการเมืองหลังการเลือกตั้ง แต่ต้องการใช้เป็นเครื่องมือ มาแสดงให้ประชาชนเบื่อหน่ายนักการเมือง ว่าเห็นไหมการเมืองยังน้ำเน่า ต้องปฏิรูป ยังมีการพูดจาพาดพิง ใส่ร้ายกัน ยังมีการเดินสายดูด แสดงว่าการเมืองยังอยู่ในวังวนเดิมๆ ไม่เปลี่ยนแปลง จึงยังไม่พร้อมที่จะให้มีการเลือกตั้งหรือไม่ กลุ่มสามมิตรจะเคลื่อนไหวอย่างไร ก็เป็นสิทธิ จะมีใครอุ้มอย่างไรหรือไม่ ประชาชนจับตาดูอยู่ แต่ขออย่ามาพาดพิงพรรคเพื่อไทย พรรคเพื่อไทยไม่ใช่คู่เทียบ หรือบันไดให้ใครไต่ข้าม พรรคเพื่อไทยเชื่อว่าถ้าคิดนโยบายโดยเอาประชาชนเป็นตัวตั้ง ผลประโยชน์จะตกอยู่กับประชาชน ต่างฝ่าย ต่างทำหน้าที่ของตัวเองอย่างสร้างสรรค์ แข่งขันกันทำความดีเพื่อประชาชน คิดการเมืองให้น้อย คิดถึงบ้านเมืองให้มาก” นายอนุสรณ์ กล่าว

นายอนุสรณ์กล่าวอีกว่า ขอฝากถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ชุดใหม่ ให้รับเอาข้อสังเกต และคำเตือนถึงความสุ่มเสี่ยงเข้าข่ายกระทำความผิดของกลุ่มสามมิตรจากอดีตประธาน กกต.และใช้กรณีนี้เป็นจุดเริ่มต้นในการแสดงจุดยืนว่ามีความกล้าหาญ มีสุจริตคือเกราะคุ้มครอง