นายสมชาย หาญหิรัญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวถึงการหารือร่วมกับหัวหน้าส่วนราชการและภาคเอกชนในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตอนล่าง 2 หรืออีสานใต้ (จังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดยโสธร จังหวัดศรีสะเกษ และจังหวัดอำนาจเจริญ) ในระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 5/2561 ณ จังหวัดอุบลราชธานี

นายสมชายกล่าวว่า ได้รับข้อเสนอจากภาคเอกชนในการขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรมที่สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาของภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง จำนวน 6 เรื่อง ได้แก่ 1.การผลักดันเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง จ.อุบลราชธานี เพื่อสร้างฐานการผลิตเชื่อมโยงกับอาเซียน และพัฒนาเมืองชายแดน ซึ่งจะเป็นการสร้างพื้นที่เศรษฐกิจใหม่บริเวณชายแดน โดยใช้ประโยชน์จากการเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ ลาวและกัมพูชา 2.โครงการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมอุบลราชธานี ในพื้นที่ตำบลนากระแซง อำเภอเดชอุดม จังหวัดอุบลราชธานี ขนาดพื้นที่ประมาณ 2,303 ไร่ มูลค่าการพัฒนาโครงการประมาณ 2,700 ล้านบาท ซึ่งจะสามารถเชื่อมโยงเป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้าในระดับนานาชาติได้ เนื่องจากจังหวัดอุบลราชธานีมีโครงการรถไฟทางคู่ที่จะก่อสร้างและท่าอากาศยานอุบลราชธานีที่จะช่วยสนับสนุนการขนส่ง พร้อมทั้งสามารถเชื่อมโยงการค้าใน 4 ประเทศ ได้แก่ ลาว กัมพูชา เวียดนาม และจีนด้วย โดยคาดว่าจะเกิดมูลค่าการลงทุนไม่ต่ำกว่า 65,000 ล้านบาท และจะสามารถรองรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ อุตสาหกรรมการเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ อุตสาหกรรมการแปรรูปอาหาร เป็นต้น
3.โครงการ E-San Start Up เป็นโมเดลในการสร้างผู้ประกอบการใหม่ของภาคอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป ภาคการค้าและภาคบริการ ให้มีแนวคิดเป็นผู้ประกอบการ 4.0 มีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้เริ่มต้นธุรกิจ 0-3 ปี คัดสรรเพื่อเข้าอบรมทำแผนธุรกิจและเข้าสู่กระบวนการบ่มเพาะธุรกิจผ่านพี่เลี้ยง นำเสนอแผนธุรกิจต่อรายเพื่อให้บริษัทขนาดใหญ่ เช่น กลุ่ม ปตท. กลุ่มบริษัท SCG บริษัทในเครือสหพัฒน์ บริษัทเดลต้า รวมถึงให้ศูนย์บริการธุรกิจของธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ร่วมพิจารณาร่วมลงทุนเพื่อเข้าถึงแหล่งทุนได้ ซึ่งโครงการนี้จะมีระยะเวลา 4 ปีภายหลังจากสิ้นสุดโครงการ คาดว่าจะเกิดมูลค่ายอดขายธุรกิจไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท มีการจ้างงานไม่ต่ำกว่า 1,000 คน โดยมีศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 7 เป็นหน่วยบริหารโครงการทำงานร่วมกับสถาบันการศึกษา สภาอุตสาหกรรม หอการค้าจังหวัด และสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย
4.โครงการศูนย์กลางนวัตกรรมอาหาร (Pilot Plant) ซึ่งจะทำงานในรูปแบบเครือข่ายร่วมกับอุทยานวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ที่มีโรงงานต้นแบบแปรรูปสินค้าด้านการเกษตร มีบริการทางด้านการแปรรูปเนื้อสัตว์/เครื่องดื่ม/เครื่องสำอาง แต่ยังขาดงบประมาณสำหรับก่อสร้างอาคารแปรรูปเครื่องดื่มและเครื่องสำอาง
5.การส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมชีวภาพครบวงจรในพื้นที่อีสานใต้ โดยโรงงานอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปในพื้นที่มีความพร้อมในการสร้างมูลค่าเพิ่มต่อยอดผลิตภัณฑ์ไปสู่ผลิตภัณฑ์ชีวภาพ ประกอบกับพื้นที่อีสานใต้มีการทำเกษตรกรรมประมาณ 1.8 ล้านไร่ และมีผลผลิตจากสินค้าเกษตรรวมกว่า 4 ล้านตัน ภาคเอกชนจึงขอรับการสนับสนุนให้เป็นพื้นที่นำร่องการส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมชีวภาพครบวงจร และ 6. โครงการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ด้านหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติในพื้นที่อีสานใต้ (Science Park) โดยกระทรวงอุตสาหกรรม ศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรมสู่อนาคต (ITC) จะร่วมกับศูนย์การเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารต้นทุน และมหาวิทยาลัยและผู้ประกอบการในพื้นที่ ในการให้คำปรึกษาด้านเทคนิคการผลิต การจัดการด้านคุณภาพ และการเสริมขีดความสามารถของช่างเทคนิคและวิศวกรในพื้นที่ ให้เรียนรู้เทคโนโลยีการประยุกต์ใช้และการออกแบบ เครื่องจักรและระบบโปรแกรมควบคุมระบบอัตโนมัติ ที่เหมาะสมกับการนำไปใช้งานในอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปในพื้นที่ ที่มีมากกว่า 2,200 ราย เพื่อเป็นการขยายผลการนำเครื่องจักรกลระบบอัตโนมัติ และหุ่นยนต์ไปสู่ผู้ประกอบการอื่นๆ ในพื้นที่อีสานใต้